พระราชสำนัก

ในหลวง-พระราชินี ทรงเปิดป้าย เจดีย์อัฐบริขารเขมาภิรโต

โดย kodchaporn_j

24 พ.ค. 2565

177 views

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงเปิดป้าย เจดีย์อัฐบริขารเขมาภิรโต และทรงประกอบพิธีสมโภช พิพิธภัณฑ์อัฐบริขารหลวงปู่ขาว อนาลโย ณ วัดถ้ำกลองเพล จังหวัดหนองบัวลำภู



วันนี้ เวลา 16.53 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 23 จังหวัดอุดรธานี



โดยมี นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี , ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดอุดรธานี , ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 , ผู้บังคับการกองบิน 23 พร้อมข้าราชการ และประชาชน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ โอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นแท่นทรงรับการถวายความเคารพจากกองทหารเกียรติยศ จากนั้นประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ที่จังหวัดหนองบัวลำภู



เวลา 17.58 น. เสด็จพระราชดำเนินถึงยังวัดถ้ำกลองเพล อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู ทรงเปิด "เจดีย์อัฐบริขารเขมาภิรโต" และทรงประกอบพิธีสมโภช "พิพิธภัณฑ์อัฐบริขารหลวงปู่ขาว อนาลโย" ในการนี้ ทรงสรง และทรงบรรจุอัฐิธาตุหลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต ลงในผอบแล้วพระราชทานแก่เจ้าพนักงานพระราชพิธี เพื่อเชิญไปยังที่ประดิษฐานในเจดีย์อัฐบริขารเขมาภิรโต จากนั้น ทรงเปิด "เจดีย์อัฐบริขารเขมาภิรโต"



ซึ่งคณะสงฆ์วัดถ้ำกลองเพลและศิษยานุศิษย์ ร่วมกันก่อสร้างขึ้น มีขนาดความสูง 15.95 เมตร เพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงหลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต อดีตเจ้าอาวาส จากนั้น เสด็จเข้าภายในเจดีย์ฯ ทรงวางผอบอัฐิธาตุหลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต ไว้ที่ประดิษฐานภายในเจดีย์ฯ แล้วทรงทอดผ้าไตรที่หน้าอัฐิธาตุฯ เสร็จแล้ว ทรงวางพวงมาลัย และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสักการะอัฐิธาตุ หลวงปู่บุญเพ็ง ซึ่งบรรพชาเมื่อปี 2485 ณ วัดศรีธรรมาราม จังหวัดยโสธร



จากนั้น ถวายตัวเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต เป็นเวลา 4 ปี และได้อุปสมบท ณ วัดป่าสุทธาวาส อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร โดยมีพระอาจารย์มหาทองสุก สุจิตฺโต เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ต่อจากนั้น ได้สนองงานหลวงปู่ขาว อนาลโย เป็นเวลากว่า 44 ปี



โดยธำรงสมณคุณ สมณธรรมอย่างงดงาม เป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของพุทธบริษัท หลวงปู่บุญเพ็ง มรณภาพเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561 สิริอายุ 88 ปี พรรษา 68 ต่อมา คณะศิษยานุศิษย์ ร่วมกับพุทธบริษัท 4 ได้ดำเนินการก่อสร้างเจดีย์อัฐบริขารเขมาภิรโต ณ ที่ประชุมเพลิงสรีระสังขาร ซึ่งเป็นสถานที่ที่หลวงปู่ฯ กำหนดไว้



เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ อัฐิธาตุ และอัฐบริขาร รำลึกถึงคุณูปการของหลวงปู่ฯ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชน ภายในจัดแสดงอัฐบริขาร อาทิ สบง และบาตร รวมทั้ง เอกสารและเครื่องใช้สอย



อาทิ เอกสารแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดถ้ำกลองเพล, หนังสือเดินทาง, กลด และเครื่องนุ่งห่มฤดูหนาว โอกาสนี้ พระราชภาวนาวชิรากร (อินทร์ถวาย สนฺตุสฺสโก) รักษาการเจ้าอาวาสวัดถ้ำกลองเพล ถวายของที่ระลึกแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี



จากนั้น ประทับรถไฟฟ้าพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังกุฏิหลวงปู่ขาว อนาลโย ในการนี้ ทรงวางพวงมาลัย และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสักการะรูปหล่อหลวงปู่ขาว อนาลโย เจ้าอาวาสวัดถ้ำกลองเพล รูปแรก



ซึ่งมีนามเดิมว่า ขาว โคระถา เกิดเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2431 ที่อำเภออำนาจเจริญ จังหวัดอุบลราชธานี ปัจจุบันเป็นจังหวัดอำนาจเจริญ เมื่ออายุ 20 ปี ได้สมรสกับนางมี โคระถา มีบุตร 3 คน เมื่อใช้ชีวิตคู่ได้ 11 ปี จึงอุปสมบท ณ วัดโพธิ์ศรี ปัจจุบัน คือ วัดบ่อชะเนง จังหวัดอำนาจเจริญ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย และจําพรรษาเป็นเวลา 6 พรรษา



ต่อมา เกิดความศรัทธาในปฏิปทาของหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต จึงได้ญัตติกรรม เป็นพระภิกษุ สังกัดธรรมยุติกนิกาย ณ วัดโพธิสมภรณ์ จังหวัดอุดรธานี จำพรรษาอยู่ 8 ปี จากนั้นได้เดินธุดงค์ตามหลวงปู่มั่น ไปปฏิบัติธรรมในสถานที่ต่าง ๆ รวมทั้งเคยเดินธุดงค์ ร่วมกับหลวงปู่ฝั้น อาจาโร, หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ , หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม , หลวงปู่ชอบ ฐานสโม เป็นเวลาหลายปี



จนมรณภาพเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2526 สิริอายุ 95 ปี พรรษา 64 โดยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงรับศพไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์โดยตลอด และเสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชทานเพลิงศพ พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี



ต่อจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังพิพิธภัณฑ์อัฐบริขารหลวงปู่ขาว อนาลโย ทรงสรงอัฐิธาตุหลวงปู่ขาว อนาลโย จากนั้น ทรงวางพวงมาลัย และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสักการะอัฐิธาตุหลวงปู่ขาว อนาลโย สำหรับ"พิพิธภัณฑ์อัฐบริขารหลวงปู่ขาว อนาลโย" วัดถ้ำกลองเพล และศิษยานุศิษย์ ได้กราบนมัสการพระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน) วัดเกษรศีลคุณ หรือวัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี เป็นประธานการก่อสร้าง



ต่อมาในปี 2532 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงบรรจุอัฐิธาตุ และทรงเปิดพิพิธภัณฑ์อัฐบริขารหลวงปู่ขาว อนาลโย ซึ่งได้พระราชทานพระราชทรัพย์สมทบในการก่อสร้าง เพื่อประดิษฐานรูปเหมือนและอัฐบริขารของหลวงปู่ขาว อนาลโย



ทั้งนี้ พิพิธภัณฑ์ฯ เกิดชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลา พระราชภาวนาวชิรากร (อินทร์ถวาย สนฺตุสฺสโก) รักษาการเจ้าอาวาสวัดถ้ำกลองเพล ร่วมกับพุทธศาสนิกชน และผู้มีจิตศรัทธา บริจาคเงินสมทบทุนบูรณะเจดีย์ ตั้งแต่ส่วนยอดฉัตรสำเร็จ ด้วยโมเสกทองคำ 3 ชั้น ส่วนยอดสุดเป็นเจดีย์สำเร็จด้วยทองคำ, องค์เจดีย์และทางเดินทำด้วยหินอ่อนไวท์คาราร่า



พร้อมทั้งปรับปรุงภูมิทัศน์ แล้วเสร็จเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ภายในฯ จัดแสดงเครื่องอัฐบริขารของหลวงปู่ขาว อนาลโย ที่ใช้ระหว่างการออกจาริกปลีกวิเวกธุดงค์ และสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น รวมทั้ง จัดแสดงประวัติ หนังสือสุทธิ ภาพสำคัญของหลวงปู่ขาว ในอริยาบทต่าง ๆ



ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงปลูกต้นพะยูง ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดหนองบัวลำภู และทรงเยี่ยมราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ซึ่งราษฎรต่างชื่นชมพระบารมี พร้อมเปล่งเสียง ทรงพระเจริญ ทั้งนี้ การเสด็จพระราชดำเนินเยือนจังหวัดหนองบัวลำภู ถือเป็นครั้งแรก หลังจากเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 10



วัดถ้ำกลองเพล เป็นวัดในสังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย ได้รับการประกาศตั้งวัด เมื่อปี 2470 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อปี 2513 สันนิษฐานว่าเป็นวัดเก่าแก่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช เข้ามาครอบครองแผ่นดินแถบนี้ หลังจากเป็นวัดร้างมานาน



ในปี 2500 หลวงปู่ขาว อนาลโย ได้อาศัยเป็นสถานที่ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน โดยใช้พื้นที่ที่เกิดจากหมู่ก้อนหินขนาดใหญ่ เป็นที่บำเพ็ญสมณธรรม จนกระทั่งมรณภาพ ภายหลังได้บูรณะก่อสร้างเป็นหลังคาคอนกรีตเชื่อมถึงกัน ทำให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นห้องโถงขนาดใหญ่



เวลา น. เสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 23 จังหวัดอุดรธานี ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นแท่นทรงรับการถวายความเคารพจากกองทหารเกียรติยศ แล้วประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพมหานคร