พระราชสำนัก

ในหลวง-พระราชินี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ประจำวันที่ 19 พ.ค. 65

โดย panwilai_c

19 พ.ค. 2565

110 views

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ดังนี้



วันนี้ เวลา 17.35 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์นายกสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และองค์ประธานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ พร้อมด้วยผู้บริหารราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาแพทยศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ พร้อมฉลองพระองค์ครุย แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว



ด้วยทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อประโยชน์สุขของราษฎรมาโดยตลอด ตั้งแต่ครั้งทรงดำรงพระราชอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร มาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการแพทย์และการสาธารณสุข อันเป็นรากฐานสำคัญของประเทศ พระวิสัยทัศน์ที่ทรงตั้งมั่นที่จะทรงสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชกรณียกิจด้านการแพทย์และการสาธารณสุข ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเสริมสร้างและสนับสนุนความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องของระบบการแพทย์และการสาธารณสุขไทย ทรงรับเป็นองค์อุปถัมภ์และองค์ประธานหน่วยงานและมูลนิธิต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อนภารกิจด้านการแพทย์และการสาธารณสุขของไทยให้สำเร็จตามพระราชปณิธาน



ทั้งยังพระราชทานพระบรมราโชบาย และพระราชทรัพย์ในการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ประชาชนในทุกมิติ เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ที่แพร่กระจายไปทั่วโลก (Pandemic) ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนไทยในทุกระดับ จากพระราชกรณียกิจด้านการแพทย์และสาธารณสุขอันมีคุณประโยชน์ต่อประเทศ สภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จึงมีมติขอพระราชทานทูลเกล้าทูลกระหม่อม ถวายปริญญาแพทยศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว



เวลา 17.46 น. พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายสรจักร เกษมสุวรรณ อุปนายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน และคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยฯ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อม ถวายปริญญาวิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาเทคโนโลยีสิ่งทอและการออกแบบแฟชั่น แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี



พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงตั้งมั่นในหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการพัฒนาประเทศ ทรงมีพระปรีชาญาณยิ่งในศาสตร์ด้านวิศวกรรมศาสตร์ และด้านการเกษตรผ่านโครงการตามพระราชดำริต่าง ๆ ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทรงมีพระราชดำริในการพัฒนาเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางวิศวกรรมเวชศาสตร์ รวมถึงพระราชทานรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัย รถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษ เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ แก่บุคลากรทางการแพทย์และโรงพยาบาลทั่วประเทศ



ทั้งยังทรงสนพระราชหฤทัยศึกษาศาสตร์ด้านการควบคุมยานยนต์ การควบคุมการบินและอากาศยาน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของวิศวกรรมเครื่องกล ทรงเข้ารับการศึกษาหลักสูตรการฝึกบินอากาศยานประเภทต่าง ๆ ทรงนำความรู้และประสบการณ์ด้านการบิน มาก่อให้เกิดประโยชน์แก่กองทัพอากาศ และประเทศชาติ ทรงปฏิบัติหน้าที่นักบิน ในการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่าง ๆ



สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงมีพระราชหฤทัยมุ่งมั่นที่จะสนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยเฉพาะการพัฒนาผ้าไหมไทย และผ้าพื้นเมืองของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ โดยเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรผลิตภัณฑ์ด้านหัตถกรรมในภูมิภาคต่าง ๆ และพระราชทานพระราชดำริเพื่อให้สามารถผลิต พัฒนา และจำหน่ายได้อย่างแพร่หลาย ทรงเป็นแบบอย่างในการฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหม และผ้าพื้นเมือง ที่สื่อความหมายถึงแหล่งผลิต และสถานที่ที่เสด็จพระราชดำเนิน ทรงสนับสนุนการทอ และการพัฒนาผ้าไหมไทย และผ้าพื้นเมืองให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทรงมีพระราชดำริให้จัดถุงพระราชทาน และทรงออกแบบเข็มกลัด "พระราชทานกำลังใจ" ทรงเย็บหน้ากากผ้าสำหรับเป็นตัวอย่าง ทั้งยังทรงถวายหน้ากากผ้าฝีพระหัตถ์แด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และพระราชทานแก่พระบรมวงศ์และประชาชน



เวลา 17.54 น. พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏที่ชนะเลิศการแข่งขัน การเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ของมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศ ประจำปีการศึกษา 2559 ถึง 2560 เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานถ้วยรางวัล ซึ่งประกอบด้วย รางวัลที่ 1 รางวัลที่ 2 รางวัลชมเชย และรางวัลอ่านดี รวม 4 ภาค โดยรางวัลที่ 1 ในกลุ่มภาคกลาง ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา, กลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ, กลุ่มภาคเหนือ ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง และกลุ่มภาคใต้ ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต



ในโอกาสนี้ นายสว่าง ภู่พัฒนวิบูลย์ ประธานคณะกรรมการดำเนินงานในงานพิธีพระราชทานปริญญาบัตรมหาวิทยาลัยราชภัฏ พร้อมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ และอธิการบดีมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย