องคมนตรี เปิดประชุมเชิงวิชาการ-ตรวจเยี่ยมการดำเนินงาน ของโรงเรียนในพระบรมราชูปถัมภ์

องคมนตรี เปิดประชุมเชิงวิชาการ และตรวจเยี่ยมการดำเนินงาน ของโรงเรียนในพระบรมราชูปถัมภ์



วันนี้ ที่โรงแรมไอโฮเท็ล อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม พลเรือเอก พงษ์เทพ หนูเทพ องคมนตรี เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงวิชาการ และร่วมเสวนาเกี่ยวกับแนวทางการจำกัดวัชพืช ในแหล่งน้ำของประเทศไทยอย่างยั่งยืน ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม จัดขึ้น เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้านการพัฒนาแหล่งน้ำ เป็นการเตรียมความพร้อมรองรับน้ำในฤดูฝน แก้ปัญหาภัยแล้ง และรักษาแหล่งน้ำธรรมชาติให้คงความอุดมสมบูรณ์



พร้อมกับได้เปิดโครงการ "รวมใจภักดิ์ รักษ์น้ำ ประจำปีงบประมาณ 2565" ที่ห้วยฮ่องหอ บ้านหนองบัว เพื่อกำจัดผักตบชวาและวัชพืชในแหล่งน้ำ หยุดการแพร่พันธุ์ในระยะยาว ที่ไม่เกิดผลเสียต่อแหล่งน้ำ ด้วยเทคโนโลยีทางวิชาการ โดยการใช้โดรน เป็นการสนองพระราชปณิธาน ให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด จากแหล่งน้ำธรรมชาติที่มีคุณภาพ



จากนั้น องคมนตรี และคณะ ไปตรวจเยี่ยมโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 53 อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร ซึ่งเปิดการเรียนการสอนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 และหลักสูตรทวิศึกษาร่วมกับวิทยาลัยการอาชีพพรรณานิคม มีนักเรียน 625 คน ช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ได้เข้าร่วมโครงการ Sandbox Safety Zone in School มีประเมินตนเองผ่านระบบ Thai Stop Covid Plus ในระดับสีเขียว



และจากการประเมินพบว่านักเรียนมีความสามารถในการแก้ปัญหา คิดวิเคราะห์ คิดริเริ่มสร้างสรรค์ สามารถอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างเป็นขั้นตอน ทั้งนี้โรงเรียนนอกจากจะเป็นแหล่งเรียนรู้แล้ว ยังเป็นสถานที่ศึกษาดูงาน ให้กับหน่วยงานภายนอกด้วย



ต่อจากนั้น ไปตรวจเยี่ยมโรงเรียนสังวาทย์วิทย์ 1 บ้านห้วยสะอาด อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ เพื่อติดตามความก้าวหน้า และรับทราบปัญหาอุปสรรค การจัดการเรียนการสอนในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเปิดทำการสอนระดับชั้นอนุบาล 2 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีนักเรียน 259 คน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ไม่สามารถเปิดทำการเรียนการสอนได้ตามปกติ จึงปรับใช้รูปแบบเป็น On-hand และ On-line พร้อมกับออกเยี่ยมบ้านนักเรียน เพื่อสำรวจความพร้อม โดยชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 ใช้รูปแบบ On-hand ส่วนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 และชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 1-3 ใช้รูปแบบ On-line



สำหรับ การเรียนการสอนแบบ On-hand พบว่านักเรียนขาดความรับผิดชอบในการทำใบงาน และส่งงานไม่ครบตรงตามเวลา เช่นเดียวกับการสอนในรูปแบบ On-line ที่นักเรียนบางส่วนขาดอุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในการเรียน ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไม่เป็นไปตามเกณฑ์ ที่สถานศึกษากำหนด จึงแก้ปัญหาให้ครูประจำชั้น หรือครูประจำวิชา ทำการสอนเป็นรายบุคคล