พระราชสำนัก

กรมสมเด็จพระเทพฯ พระราชทานปริญญาบัตร ม.เทคโนโลยีราชมงคลอีสาน

โดย panwilai_c

4 มี.ค. 2565

146 views

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา



วันนี้เวลา 9 นาฬิกา 50 นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปยังหอประชุมอาคารเฉลิมพระเกียรติ ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ศูนย์การศึกษาหนองระเวียง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ในการพระราชทานปริญญาบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษา จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ประจำปีการศึกษา 2562 มีผู้ทรงคุณวุฒิ รับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ 6 คน และผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก ,ปริญญาโท และปริญญาตรี รับพระราชทานปริญญาบัตรทั้งภาคเช้า ภาคบ่าย รวม 3,231 คน



โอกาสนี้ พระราชทานพระราโชวาท แก่ผู้สำเร็จการศึกษา ความว่า "ความสำเร็จทางการศึกษาที่บัณฑิตได้รับนั้น เป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะเกื้อกูลให้แต่ละคน มีความสำเร็จในการประกอบอาชีพการงาน และในการดำเนินชีวิตต่อไปภายหน้า การสร้างสรรค์ความสำเร็จดังกล่าว นอกจากจะต้องอาศัยความรู้ทางวิชาการ ในสาขาวิชา ที่แต่ละคนเล่าเรียนมาแล้ว ปัจจุบันความรู้ด้านเทคโนโลยี ยังเข้ามามีส่วนอย่างมาก ทั้งในชีวิตประจำวัน และในกิจการงานทุกอย่าง เทคโนโลยีเหล่านี้แม้จะมีประโยชน์มากเพียงใด แต่ก็ขึ้นอยู่กับการใช้เป็นสำคัญ



บัณฑิตจึงควรศึกษาเรียนรู้ให้เข้าใจชัด และเชี่ยวชาญชำนาญ เพื่อให้สามารถนำเทคโนโลยี มาใช้ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และบังเกิดประโยชน์สูงสุด ข้อสำคัญ พึงระลึกไว้เสมอว่า การใช้เทคโนโลยี ให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริงนั้น ต้องมีคุณธรรมกำกับประคองทุกเมื่อ จะได้ไม่เกิดเป็นโทษเสียหายแก่ผู้อื่น และสังคมส่วนรวม หากบัณฑิตนำสิ่งที่พูดนี้ไปยึดถือปฏิบัติ ก็เชื่อว่าจะสามารถสร้างสรรค์ความสำเร็จในชีวิต และกิจการงานได้ ดังที่ตั้งใจมุ่งหมาย"



ต่อมาเวลา 15 นาฬิกา 44 นาที เสด็จพระราชดําเนินไปยัง อารามจีนปากช่องเขาใหญ่ เป่าซานซื่อ อําเภอปากช่อง ทรงเททองหล่อพระเกศของพระมหาไวโรจนพุทธเจ้า ที่มูลนิธิพุทธจักษุวิชชาลัย จัดสร้างขึ้น เพื่อเจริญสัมพันธไมตรีทางพระพุทธศาสนาระหว่างไทยและจีน มีขนาดความสูงจากฐานทองเหลืองถึงปลายพระรัศมี รวม 16.99 เมตร หนัก 20 ตัน เมื่อแล้วเสร็จจะนำไปประดิษฐาน ณ วิหารศิลปะสมัยราชวงศ์ถัง ภายในอารามจีนปากช่องเขาใหญ่ เป่าซานซื่อ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะบูชาต่อไป



พระมหาไวโรจนพุทธเจ้า เป็นพระพุทธเจ้าองค์สำคัญของศาสนาพุทธ ฝ่ายมหายานและวัชรยาน เป็นสัญลักษณ์แห่ง พุทธภาวะของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ เบื้องหลังของพระพุทธปฏิมากรองค์นี้ จะมีแผงรัศมีประกอบด้วย พระพุทธเจ้าขนาดกลาง 9 องค์ เมื่อรวมกับพระมหาไวโรจนพุทธเจ้าแล้ว จึงหมายถึง พระพุทธเจ้าที่ประทับอยู่ในทิศทั้งสิบ และยังมีพระพุทธเจ้าน้อยอีกนับพันพระองค์ ที่ได้สร้างตามพระสูตร พระนามของพระพุทธเจ้าในอดีต ปัจจุบัน อนาคต สร้างเป็นพุทธลักษณะยื่นพระหัตถ์ขวา เพื่อรับสรรพสัตว์ไปอุบัติยังพุทธเกษตรต่าง ๆ ตามคติของนิกายสุขาวดี แท่นรัตนบัลลังก์ ยังประกอบด้วยปฏิมากรของพระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ และเทพธรรมบาลต่าง ๆ อีก 414 องค์ ตามครรภธาตุมณฑล ในมหาไวโรจนสูตรของนิกายวัชรยาน



พระมหาไวโรจนพุทธเจ้าองค์นี้ ยังเป็นพระพุทธเจ้าประจําปีนักษัตรมะแม อันเป็นนักษัตรประจําพระองค์ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ด้วย