พระราชสำนัก

กรมสมเด็จพระเทพฯ ติดตามโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนตามพระราชดำริ จ.เชียงราย

โดย kodchaporn_j

18 ก.พ. 2565

94 views

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงาน โครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนตามพระราชดำริ ในถิ่นทุรกันดาร ที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน จังหวัดเชียงราย



วันนี้เวลา 09.04 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง ซึ่งกองบินตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดถวาย ไปยังโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนชนัตถ์ปิยะอุย อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ทรงติดตามการดำเนินงาน โครงการตามพระราชดำริ ซึ่งเป็นโรงเรียนลำดับที่ 1,070 ของการทรงงานด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร



ในการนี้ทรงเปิดอาคาร ท่านผู้หญิงชนัตถ์ปิยะอุย เป็นอาคารสองชั้น ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2564 เพื่อทดแทนอาคารเรียนชั้นอนุบาล และบ้านพักครูหลังเดิม ที่ชำรุดทรุดโทรม โดยโรงเรียนแห่งนี้จัดตั้งขึ้น เมื่อปี 2517 สังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 ได้รับการสนับสนุนการจัดสร้างอาคารเรียน 4 หลัง จากท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ซึ่งน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย โดยเสด็จพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ปัจจุบันเปิดสอนชั้นอนุบาล ถึงประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียน 82 คน



ทั้งนี้โรงเรียนได้ดำเนินโครงการตามพระราชดำริ ทั้งในด้านการศึกษา และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็ก เยาวชน ตลอดจนประชาชนในชุมชน โดยในด้านการศึกษา มีการปูพื้นฐานวิชาภาษาอังกฤษ ให้นักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล โดยครูผู้สอนจากมูลนิธิพุทธรักษา พร้อมทั้งวิเคราะห์ผลการสอบ เพื่อออกแบบการจัดการเรียนการสอน ตัวชี้วัดที่ไม่ผ่านเกณฑ์ และยังได้จัดชั่วโมงเรียนเพิ่มวันละ 1 ชั่วโมง เพื่อให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมทักษะผู้เรียนด้านต่าง ๆ อาทิ การฝึกทักษะอาชีพ มีครูจากวิทยาลัยเทคนิคเทิง เข้ามาสอนการทำพรมเช็ดเท้าจากเศษผ้า และการทำไม้กวาดดอกหญ้า วางจำหน่ายตามตลาดของชุมชน ช่วยให้นักเรียนมีรายได้เสริม รวมทั้งจัดกิจกรรมสอนปักผ้าม้ง เพื่อส่งเสริมอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่น และยังจัดทำเป็นผลิตภัณฑ์ของที่ระลึก พร้อมปักชื่อของโรงเรียนไว้ที่กระเป๋าทุกใบ ตามที่ได้รับพระราชทานคำแนะนำ เพื่อให้ผู้รับ ได้ทราบถึงแหล่งที่มา



ส่วนกิจกรรมโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน มีการเลี้ยงสุกร ไก่ และปลา รวมทั้งปลูกผักสวนครัว ซึ่งผลผลิตเพียงพอ ต่อการประกอบอาหารกลางวัน และได้ถ่ายทอดความรู้ให้กับคนในชุมชน ตลอดจนผู้ที่สนใจ ซึ่งในปี 2563 ได้รับรางวัล โรงเรียนกิจกรรมปศุสัตว์ดีเด่น จากสำนักงานปศุสัตว์เขต 5



ในการนี้ทอดพระเนตรการ "เป่าแคนม้ง" จากตัวแทนนักเรียน ซึ่งเป็นการแสดงดนตรีพื้นบ้าน ที่นิยมเล่นในประเพณีสำคัญของชาวม้ง พร้อมกันนี้พระราชทานพระราชวโรกาสให้ ประธานกรรมการมูลนิธิ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน สมทบกองทุน พัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร



เวลา 12.59 น. เสด็จพระราชดำเนินไปทรงติดตามการดำเนินงาน ของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านดอยล้าน อำเภอแม่สรวย ซึ่งเปิดทำการสอนครั้งแรกเมื่อปี 2503 เพื่อให้บุตรหลานของราษฎรบ้านดอยล้านได้มีสถานศึกษาใกล้บ้าน ปัจจุบันเปิดสอนชั้นอนุบาล ถึงประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียน 89 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยภูเขาเผ่าลีซอ ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สามารถจัดการเรียนการสอนได้ตามปกติ โดยโรงเรียนได้ดำเนินงานตามแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริฯ ตั้งแต่ปี 2560 เพื่อพัฒนาทักษะนักเรียน



ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา นักเรียนที่สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สามารถเข้าศึกษาต่อทั้งสายสามัญและสายอาชีพครบทุกคน ส่วนผลการเรียนพบว่ายังต้องแก้ไข จึงได้นำผลการทดสอบของนักเรียนมาวิเคราะห์ เพื่อออกแบบการเรียนการสอน ให้นักเรียนฝึกทำแบบทดสอบก่อนและหลังเรียน เพื่อประเมินความรู้ ความเข้าใจ และวิเคราะห์นักเรียนเป็นรายบุคคล พร้อมปรับรูปแบบการสอนของครู โดยให้สาธิตการสอนและทดลองร่วมกับสื่อ DLTV นอกจากนี้ยังใช้สื่อการเรียนการสอนอื่น ๆ ควบคู่กัน อาทิ บัตรภาพ ซึ่งจะช่วยดึงดูดความสนใจ ให้นักเรียนตั้งใจเรียน และช่วยการยกระดับผลสัมฤทธ์ในรายวิชาต่าง ๆ ให้ดีมากขึ้น



ด้านการฝึกทักษะอาชีพ มีวิทยาลัยเทคนิคเวียงป่าเป้า สอนการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าเบื้องต้น แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 6 เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ สามารถซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าเองได้ในเบื้องต้น นอกจากนี้สำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงราย สอนแปรรูปปลาหยอง และแซนด์วิซปลาหยอง จากใช้ปลานิล



ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่มีมากในโรงเรียน เป็นการช่วยถนอมอาหาร และช่วยฝึกทักษะ ให้นักเรียนนำไปต่อยอดสร้างอาชีพในอนาคต รวมทั้งประยุกต์ใช้ความรู้จากโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน ที่ประสบผลสำเร็จในการส่งเสริมให้นักเรียนมีทักษะ ความรู้ด้านการเกษตรและปศุสัตว์ ส่งผลให้ มีเนื้อสัตว์ ถั่วเมล็ดแห้ง ผัก และผลไม้ เพียงพอ ซึ่งได้มีการต่อยอด ขยายองค์ความรู้ ในลักษณะศูนย์บริการความรู้ด้านการเกษตร พร้อมแจกจ่ายต้นกล้าผัก หน่อกล้วย และกล้ามะละกอ ให้กับชุมชน เพื่อลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ครัวเรือน ปัจจุบันมีสมาชิก 30 ครัวเรือน



ต่อมาเวลา 15.05 น. เสด็จพระราชดำเนินไปทรงติดตามการดำเนินงาน ของศูนย์การเรียนตํารวจตระเวนชายแดนอินทรีอาสา (บ้านห้วยน้ำกืน) อำเภอแม่สรวย ซึ่งกองกำกับการตำรวจตระเวรชายแดนที่ 32 จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2558 เพื่อให้เด็กนักเรียนได้เรียนหนังสือใกล้บ้าน ด้านการเรียนการสอน พบว่า วิชาภาษาไทย มีแนวโน้มดีขึ้น มีการสอนให้นักเรียนฝึกสะกดคำ อ่านออกเสียง แต่งเรื่องจากภาพ และเขียนตามคำบอก ส่วนวิชาคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ยังต้องปรับปรุง



ซึ่งได้เน้นให้นักเรียนฝึกท่องสูตรคูณ และสอนเสริมในรายที่มีพัฒนาการช้า ด้านโครงการฝึกอาชีพ นักเรียนชาย สนใจวิชาซ่อมจักรยาน และตัดผม ส่วนนักเรียนหญิง สนใจเรื่องการทำอาหารและขนม ที่สามารถนำไปต่อยอดเป็นอาชีพได้ในอนาคต ในด้านสุขอนามัย ครูพยาบาลและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ให้ความรู้เรื่องการรักษาความสะอาด และสภาพแวดล้อมในบ้าน ประกอบกับมีผู้นำชุมชนเข้มแข็ง คอยตรวจสอบการเดินทางเข้าออกของคนต่างถิ่นอยู่เสมอ ทำให้ในหมู่บ้านไม่พบการแพร่ระบาด ของโรคโควิด-19 ด้านการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น มีปราชญ์ชาวบ้านสอน "ปักผ้าลายอาข่า" และงานจักสานตะกร้า ซึ่งมีพระราชดำริให้ช่วยกันสืบสานรักษาไว้



ส่วน โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน เนื้อสัตว์และพืชผักมีเพียงพอ มีการเพิ่มพื้นที่ปลูกถั่วลิสง เพาะต้นอ่อนทานตะวัน มีวิทยากรช่วยสอนการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร เช่น กล้วยฉาบ ไข่เค็ม ปัจจุบันยังเป็นศูนย์บริการความรู้ด้านการเกษตร ให้กับหน่วยงาน โรงเรียน และคนในชุมชน สำหรับการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำบริโภคในโรงเรียนและชุมชน กรมชลประทาน กรมป่าไม้ และสำนักงาน กปร. ร่วมกันสนองพระราชดำริ สร้างฝายห้วยน้ำกืน ฝายห้วยผาแดง พร้อมระบบส่งน้ำ และถังพักน้ำ ส่งผลให้มีน้ำใช้เพียงพอตลอดทั้งปี



การเสด็จพระราชดำเนินไปทรงติดตามการดำเนินงานโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนตามพระราชดำริ ในถิ่นทุรกันดาร ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ตลอดทั้ง 5 วันที่ผ่านมา เป็นการทรงงานเพื่อขับเคลื่อนให้เยาวชน และคนในชุมชนพื้นที่ห่างไกล ได้มีโอกาสทางการศึกษา มีอาหารบริโภคที่ถูกหลักอนามัย มีสุขภาพดี ซึ่งจะช่วยให้มีกำลัง สติปัญญา ความคิดสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาตนเอง ครอบครัว ชุมชน และประเทศชาติต่อไป

Related News