'ในหลวง-ราชินี' เสด็จเยี่ยม 'เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา' ณ รพ.จุฬาฯ พสกนิกรเฝ้าถวายกำลังใจ

แถลงการณ์สำนักพระราชวัง เรื่อง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงพระประชวร

วานนี้ (วันที่ 15 ธ.ค.) แถลงการณ์สำนักพระราชวัง เรื่อง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงพระประชวร

เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พุทธศักราช 2565 เวลา 18 นาฬิกา 20 นาที สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงทำการฝึกสุนัขทรงเลี้ยง ที่จะเข้าแข่งขันสุนัขใช้งานตามมาตรฐานสากลในรายการ Thailand Working Dog Championship Royal Thai Army 2022 ระหว่างวันที่ 10 ถึง 19 ธันวาคม พุทธศักราช 2565 ณ สนามฝึก กองพันสุนัขทหาร อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ในระหว่างที่ทรงทำการฝึก ทรงมีพระอาการ ประชวรหมดพระสติ ด้วยพระอาการทางพระหทัย คณะแพทย์ประจำพระองค์จึงได้เชิญเสด็จพระราชดำเนินไปปฐมพยาบาล ณ โรงพยาบาลปากช่องนานา พระอาการประชวรคงที่ในระดับหนึ่ง จากนั้น ได้เชิญเสด็จประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งเข้ารับการรักษาพระองค์ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

เพื่อถวายการตรวจพระวรกายอย่างละเอียด และประทับรักษาพระองค์ต่อไปจึงประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกัน สำนักพระราชวัง 15 ธันวาคม พุทธศักราช 2565

-------------------------------------------------

วานนี้ (วันที่ 15 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ประชาชนจำนวนมากเดินทางมาติดตามพระอาการสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เพื่อถวายกำลังใจ และเฝ้าฯ รับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินี ขณะเสด็จออกจากอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ มาประทับรถยนต์พระที่นั่ง เวลา 14.43 น.


นายจิรวัฒน์ เปรมอุดมกิจ หนึ่งในประชาชนที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จฯ กล่าวว่าเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินี ทอดพระเนตรเห็นประชาชนที่มาเฝ้ารับเสด็จ ทรงพระดำเนินมาหาและมีพระราชปฏิสันถารกับประชาชน ตนกราบทูลกับพระองค์ว่าประชาชนมาถวายกำลังใจ และทูลเกล้าฯ ถวายดอกไม้ที่เตรียมมาจากบ้าน พระราชินีทรงรับดอกไม้ที่ทูลเกล้าฯ ถวาย

 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รับสั่งว่าจะนำไปพระราชทานให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา จากนั้นเสด็จฯ ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ

------------------------------------------------

เวลา 21.00 น. ทีมข่าวลงพื้นบริเวณชั้น 1 อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์  โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ พบว่าเจ้าหน้าที่จากสำนักพระราชวัง อยู่ระหว่างการจัดเตรียมสถานที่สำหรับจุดถวายพระพร ซึ่งบริเวณจอภาพโทรทัศน์ของทางโรงพยาบาลปากทางเข้าลิฟต์ ได้มีการฉายพระบรมมาฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยา พร้อมขึ้นข้อความว่า “ทรงพระเจริญ” บริเวณปากทางเข้าลิฟต์ นอกจากนี้ยังมีการขึ้นจอภาพเอกสารแถลงการณ์สำนักพระราชวัง เรื่องพระอาการประชวรอีกด้วย


ขณะที่บริเวณด้านหน้าทางเข้าอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ พบว่า มีประชาชนบางส่วนมาเฝ้าติดตามพระอาการอย่างใกล้ชิด และถวายกำลังใจแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาฯ รวมทั้งเฝ้าฯ รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ที่เสด็จเป็นการส่วนพระองค์ ซึ่งพบว่ามาจากทั่วทุกสารทิศ ซึ่งบางส่วนพบว่านำดอกกุหลาบสีส้ม ซึ่งเป็นสีประจำวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาฯ มาถวายเป็นกำลังใจอีกด้วย

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ คุณรินลดา  ชาวกรุงเทพมหานคร หนึ่งในประชาชนที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จ และติดตามพระอาการอย่างใกล้ชิด รวมทั้งมาถวายกำลังใจแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาฯ เล่าว่า ตนทราบข่าวมาจากเพื่อน เพราะเพื่อนไม่ชอบข่าวลือเลยมาที่ รพ.เอง และได้ทราบว่าพระองค์เสด็จมาประทับที่ รพ. จริง จึงโทรศัพท์บอกตน และได้ทราบว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินี จะเสด็จมาเป็นการส่วนพระองค์ จึงรีบมาที่ รพ. ตั้งแต่เวลา 12.45 น. แต่ไม่ทันตอนทั้ง 2 พระองค์เสด็จมา แต่ได้ยินเพื่อนเล่าว่า ตอน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จมาถึง มีสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ถวายการขับรถให้

คุณรินลดา เล่าต่อว่า เมื่อทราบว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี เสด็จมาจริง จึงได้โทรศัพท์บอกกลุ่มเพื่อนๆ จากนั้นก็ตามกันมา ซึ่งคนที่มาส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนที่รักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งมารวมกันถวายกำลังใจแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ

จากนั้น คุณรินลดา ได้เล่าถึงบรรยากาศขณะที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จลงมา ว่า ตนได้เห็นสิวพักตร์ที่ไม่ค่อยดีมากนัก และพระเนตรแดง ซึ่งระหว่างที่ทั้ง 2 พระองค์เสด็จมานั้น พวกเราได้เปล่งเสียงไปว่า “ถวายพระกำลังใจให้ในหลวง องค์ภาฯนะเพคะ”

จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตรัสว่า “ขอบคุณที่ให้กำลังใจ” แล้วจากนั้นน้ำพระเนตรของพระองค์คลอ ขณะที่สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี มีพระอริยาบถที่เข้มแข็ง แต่ท้ายที่สุดแล้วพระองค์ก็กลั้นน้ำพระเนตรไว้ไม่อยู่ ก่อนจะทรงตรัสว่า “ขอบคุณมากนะ”

 ขณะเดียวกันคุณรินลดา และเพื่อนได้นำดอกกุหลาบสีส้มมาด้วย ซึ่งเธอได้เล่าถึงที่ไปที่มาว่าที่นำดอกกุหลาบสีส้มมาด้วยนั้น เนื่องจากว่า สีนี้เป็นสีประจำ วันคล้ายพระราชสมภพของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ เป็นสื่อแทนว่า กุหลาบเป็นดอกไม้แห่งความรัก เปรียบเสมือนเป็นการนำความรักมามอบให้แด่พระองค์ท่าน

ขณะที่คุณจิรวัฒน์ เปรมอุดมกิต อายุ 30 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร ที่เดินทางมาด้วยวานนี้ เล่าว่า ตนติดตามข่าวมาตั้งแต่ช่วงเวลา 23.00 น. ของวันที่ 14 ธ.ค. จากนั้นเมื่อทำธุระเสร็จ และได้ยินว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีจะเสด็จมาที่ รพ. ตนจึงเดินทางมาเฝ้าฯ รับเสด็จ เพื่อถวายกำลังใจให้ทั้ง 2 พระองค์ รวมทั้งสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิตติยาภาด้วย ซึ่งมาตั้งแต่ช่วงเวลา 13.30 น.

คุณจิรวัฒน์ เล่าต่อว่า ตน รู้สึกผูกพันกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงอยากมาเพื่อที่จะถวายกำลังใจให้ ซึ่งได้รอเฝ้าฯ รับเสด็จ ตอนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีจะเสด็จกลับ ในช่วงเวลาประมาณ 14.40 น.

ซึ่งคุณจริวัฒน์ ได้เล่าบรรยากาศขณะนั้นว่า ประชาชนที่มารอเฝ้ารับเสด็จ ต่างแปลงเสียงว่า “ขอถวายกำลังใจ และขอให้พระองค์สู้ๆ” ท่านก็เลย เสด็จพระราชดำเนินมาที่พวกเรา พวกเราก็เลยทูลเกล้าถวายดอกไม้ให้สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ซึ่งพระองค์ทรงรับไว้ จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรับสั่งว่า “จะเอาดอกไม้นี้ ไปให้พระองค์ภานะ” ก่อนจะก้มกราบพระบาท จากนั้นเสด็จฯ ประทับรถยนต์พระที่นั่งออกจาก รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

ทั้งนี้ คุณจิราวัฒน์ เล่าว่า บริเวณหน้าอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย มีประชาชนทยอยเดินทางกันมาติดตามพระอาการ และถวายกำลังใจให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิตติยาภาฯ กันอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันเมื่อเห็นแถลงการณ์จากสำนักพระราชวังแล้วตนก็คลายกังวลขึ้น


คุณจริพัฒน์ ยังกล่าวถึงการรับฟังข่าวสารของประชาชนด้วย เนื่องจากว่าบางครั้งการข่าวมีทั้งเฟกนิวส์ และข่าวจริงปะปนกันไป ว่า ให้รอฟังจากสำนักพระราชวังดีที่สุด เพราะเป็นทางการที่สุดแล้ว และให้ทุกคนมีวิจารณญาณในการอ่านข่าว