ญาติร้องหนุ่มอายุ 38 ปี ถูกรถตู้ตำรวจ สภ.ปทุมราชวงศา จังหวัดอำนาจเจริญ ชนเสียชีวิต เหตุเกิดตั้งแต่สิ้นปี จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการเยียวยา ด้านผู้กำกับแจง ลงพื้นที่พบญาติพร้อมเยียวยาต่อเนื่อง แต่ญาติเรียกเงินเยียวยาค่อนข้างสูง จึงยังตกลงกันไม่ได้


หลานผู้เสียชีวิตโพสต์ร้องเรียนผ่านโซเชียล ระบุว่า ลุงหนูโดนรถชนตายคาที่อย่างน่าอนาถ คนที่ชนเป็นตำรวจ สภ.ปทุมราชวงศา ซึ่งในรถตำรวจคันนั้นมีผู้กำกับ สภ.ปทุมราชวงศา นั่งมาด้วย ที่ญาติติดใจ คือ เหตุเกิดเวลา 2 ทุ่ม 40 นาที ของวันที่ 27 ธันวาคม แต่ตำรวจโทรแจ้งญาติตอน 5 ทุ่ม อ้างว่า ใช้เวลาในการค้นหาข้อมูลผู้ตายและที่อยู่ญาติ ทั้งที่ลุงมีกระเป๋าห้อยคอ ในนั้นมีบัตรประชาชนอยู่ด้วย ที่น่าสลดใจลุงมีลูกสาวอายุ 16 ปี และลูกชาย 3 ขวบ ที่กำลังเรียน แต่พ่อกับโดนรถชนตายคาที่ แถมคดีนี้ไม่ได้รับความเป็นธรรม


ผู้สื่อข่าวไปพบกับนายบุญ สุรารักษ์ อายุ 57 ปี พ่อของนายเฉลิม สุรารักษ อายุ 38 ปี ผู้เสียชีวิต เผยว่า ขอความเป็นธรรมจากสื่อให้ช่วยเหลือด้วย ตอนนี้สูญเสียเสาหลักของครอบครัว ก็เหมือนสูญเสียทุกอย่า งตอนเกิดเหตุตำรวจบอกว่า พ่อไม่ต้องพูดอะไรนะจะรับผิดชอบทุกอย่าง แต่ความจริงตอนนี้ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ตนไม่รู้ว่า ลูกเมาจริงหรือไม่ เพราะตอนไปที่โรงพยาบาล ก็ไม่มีใครแจ้งอะไร


ขณะที่นางรัชดา สุรารักษ์ น้าของผู้เสียชีวิต บอกว่า ที่ญาติติดใจ ตำรวจแจ้งญาติช้าไปเกือบ 3 ชั่วโมง ตอนเกิดเหตุญาติยังไปไม่ถึงที่เกิดเหตุ ตำรวจก็จะยกรถมอเตอร์ไซค์ขึ้นโรงพักแล้ว เรื่องนี้เคยไปแจ้งความที่ สภ.เมืองอำนาจเจริญ ก็ไม่รับแจ้ง ไล่กลับให้มาแจ้งที่ สภ.ปทุมราชวงศา ตอนนี้เลยไม่รู้จะขอความเป็นธรรมได้จากใคร


ด้านพันตำรวจเอกนิติธร แสงย้อย ผู้กำกับการ สภ.ปทุมราชวงศา จังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุ 27 ธันวาคม 2564 รถตู้ของโรงพักปทุมราชวงศา มีร้อยตำรวจตรี ธงชัย ขมิ้นทอง เป็นคนขับ ได้ออกไปปฏิบัติราชการนอกสถานที่ กำลังเดินทางกลับ เมื่อถึงที่เกิดเหตุผู้ตายได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ย้อนศรมา รวมถึงรถไม่มีไฟหน้า ทำให้เจ้าหน้าที่คนขับมองไม่เห็นจนเกิดอุบัติเหตุขึ้น ทั้งนี้ ยืนยันว่าขณะนั้นตนเองไม่ได้นั่งอยู่ในรถตู้ด้วย


ส่วนที่ญาติผู้เสียชีวิตติดใจเรื่องที่เจ้าหน้าที่แจ้งให้ญาติทราบช้านั้น ยืนยันว่าญาติผู้เสียชีวิตมาถึงที่เกิดเหตุก่อนที่เจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ทราบ ซึ่งหลังเกิดเหตุทางตนพร้อมเจ้าหน้าที่เดินทางไปร่วมงานศพ และมอบเงินค่าทำศพเป็นเงิน 10,000 บาท


หลังจากนั้นได้นัดญาติมาเจรจาตกลงกันเรื่องค่าเสียหาย รอบแรกญาติเรียกเงิน 1 ล้านบาท ทางตนแจ้งว่าให้ได้ 60,000 บาท ตกลงกันไม่ได้ต้องเจรจากันอีกรอบ ซึ่งครั้งที่ 2 ญาติเรียกเงิน 1.5 ล้านบาท ทางตนก็ยืนยันตัวเงินที่ 60,000 บาทเช่นเดิม ทางญาติจึงไม่ขอรับเงินก้อนนี้ ทำให้การเจรจาไม่ได้ข้อสรุป