ปคบ.บุกค้นโฮมแคร์เถื่อน ปล่อยผู้สูงอายุอายุตามยถากรรม กลางซากปรักหักพัง

สังคม

ปคบ.บุกค้นโฮมแคร์เถื่อน ปล่อยผู้สูงอายุอายุตามยถากรรม กลางซากปรักหักพัง

โดย nicharee_m

19 ม.ค. 2565

606 views

เจ้าหน้าที่ ปคบ.นำกำลังบุกตรวจสอบศูนย์ดูแลผู้สูงอายุเถื่อนย่านลาดกระบัง หลังผู้เสียหายร้อง สภาพความเป็นอยู่ไม่ได้มาตรฐาน ทั้งสกปรก รอยอุจจาระเปื้อนเต็มกำแพง

โดยที่มาที่ไปของเรื่องนี้ เริ่มจาก น.ส.เปิ้ล ผู้ช่วยพยาบาลที่เป็นอดีตพนักงาน ของศูนย์ดูแลผู้สูงอายุแห่งหนึ่งย่านสุวินทวงศ์และลาดกระบัง ได้ส่งภาพถ่ายภายในศูนย์แห่งนี้มายังรายการโหนกระแส หลังจากทีมงานตรวจสอบข้อเท็จจริงจึงพา น.ส.เปิ้ล เข้าแจ้งเบาะแส และร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ ปคบ. เพื่อขอให้เข้าไปตรวจสอบ ภายในศูนย์ดูแลผู้สูงอายุดังกล่าว ซึ่งสภาพด้านในปล่อยให้ผู้ป่วยที่เป็นผู้สูงอายุนอนอยู่ในสภาพห้องที่รกและสกปรก, ผู้สูงอายุบางรายที่มีอาการด้านจิตเวชต้องถูกล่ามโซ่ขังอยู่ในห้อง มีรอยอุจจาระเปื้อนเต็มกำแพง

โดยเธอบอก ว่ารู้จักกับศูนย์ฯ นี้ผ่านทาง facebook ซึ่งประกาศรับสมัครพนักงาน ต้องการตำแหน่งผู้ช่วยพยาบาลที่มีประสบการณ์ในด้านการดูแลผู้ป่วยติดเตียงและผู้สูงอายุ ให้ค่าจ้างเดือนละ 15,000 บาท ซึ่งเธอก็ตอบตกลงและไปเริ่มงานวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา ทำงานได้เพียง 2 วัน เธอบอกว่า รับไม่ได้กับสภาพศูนย์ที่ดูแลผู้ป่วยแบบนี้ จึงนำเรื่องราวมาร้องกับรายการโหนกระแส

สำหรับศูนย์ดูแลผู้สูงอายุดังกล่าวมี ทั้งหมด 2 สาขา ซอยสุวินทวงศ์ 69 และย่านลาดกระบัง แต่ละสาขามีผู้ป่วยประมาณ 10 กว่าคน ซึ่งการดูแลให้อยู่ในสภาพไม่ต่างกัน และต้องเสียค่าใช้จ่ายเดือนละ 9,000 ถึง 12,000 บาท ซึ่งเธอเชื่อว่าทางครอบครัวของผู้ป่วย ไม่ทราบว่า ส่งผู้ป่วย ผู้สูงอายุมาแล้วต้องอยู่ในสภาพแบบนี้ ไม่มีแม้แต่อุปกรณ์กู้ชีพฉุกเฉิน จึงนำเรื่องมาร้องยังรายการโหนกระแส เพื่อช่วยประสานขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบเรื่องมาตรฐาน และเพื่อช่วยชีวิตผู้สูงอายุที่อยู่ภายในศูนย์แห่งนี้

ต่อมาทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ คุณนฤชา กมุทโยธิน ได้พูดคุยกับ น.ส.กุ้ง ผู้เสียหายบอกว่า ครอบครัวเธอได้พาพ่อของสามี อายุ 76 ปี ไปอยู่ที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุแห่งนี้ ป่วยเป็นโรคความดัน ไขมันในเส้นเลือด ซึ่งพอช่วยเหลือตัวเองได้ แต่ต้องมีคนคอยดูแลให้กินยาให้ครบตามแพทย์สั่ง เพราะบางครั้งคุณพ่อจะมีอาการหลงลืม ซึ่งตัวเองและสามีต้องออกไปทำงานไม่มีเวลาดูแล จึงตัดสินใจส่งไปยังศูนย์ดังกล่าว

คุณกุ้ง บอกว่า เห็นโฆษณาทางเฟซบุ๊กว่า รับดูแลผู้สูงอายุโดยผู้เชี่ยวชาญ มีกิจกรรมสันทนาการและกายภาพบำบัด อาหารครบ 3 มื้อ มีที่นอน สำหรับผู้ป่วยติดเตียงและห้องพักส่วนตัว (1 ห้องต่อ 1 คน) สะอาด ปลอดภัย บรรยากาศดี ติดทุ่งนาใกล้ชิดธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้สูงอายุวัยเกษียณ หรือ ผู้สูงอายุที่ต้องการพักฟื้น ฟื้นฟูร่างกาย โดยเสียค่าใช้จ่ายเดือนละ 11,000 บาท เป็นค่ากินอยู่ 9,000 บาท และ ค่าแพมเพิส 2,000 บาท

จึงเชื่อใจส่งคุณพ่อมา โดยที่ไม่ได้เข้ามาดูสถานที่จริง ภายหลังให้คุณพ่อมาอยู่ได้ 2 เดือน จะขอเข้าเยี่ยมแต่ทางศูนย์ปฏิเสธอ้างว่าเป็นช่วงโควิด ช่วงแรกพนักงานของศูนย์จะโทรศัพท์มาและส่งรูปมาอัพเดทความเป็นอยู่คุณพ่อตลอด แต่ภายหลังพนักงานตัดสินใจลาออก และบอกว่า "รับไม่ไหว" จากนั้นก็หายไปเลย

เธอและสามีพยายามสอบถามไปยังเจ้าของศูนย์ที่ดูแลแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบและไม่มีภาพอัพเดทชีวิตประจำวันของคุณพ่อ ด้วยความร้อนใจ จึงประสานศูนย์ดูแลผู้สูงอายุอีกแห่งหนึ่ง ให้เข้าไปรับตัวคุณพ่อ ปรากฏว่า คุณพ่อออกมาในสภาพผอมโซ ร่างกายดูไม่แข็งแรง แย่หนักกว่าตอนก่อนเข้าไปอยู่ เมื่อพาไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลพบว่าความดันสูง ร่างกายขาดสารอาหาร ซึ่งหลังจากพาพ่อออกมาจากศูนย์ได้ ก็ส่งเรื่องร้องเรียน

ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ ปคบ. นำกำลังพร้อมด้วย กองส่งเสริมสวัสดิการและคุ้มครองสิทธิ์ผู้สูงอายุ กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือ สบส. กระทรวงสาธารณสุข เข้าตรวจสอบภายในศูนย์ฯ ดังกล่าว

ลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์ 2 คูหาสูง 4 ชั้น ด้านหน้ามีประตูรั้วเหล็กขึงสแลนเขียวปิดบังอยู่ ซึ่งหากผ่านไปมาจะไม่มีใครรู้เลย ว่าสถานที่นี้ใช้เป็นศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ด้านในอาคาร ชั้น 1 มีเตียงนอนสำหรับผู้ป่วยสูงอายุที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ประมาณ 10 เตียง

ตรวจสอบพบชาวไทย 2 คนและชาวเมียนมา 4 คน เป็นคนดูแลผู้ป่วย สอบถามหญิงชาวไทย 1 ในผู้ดูแลผู้ป่วย ยอมรับว่า ตัวเองไม่ได้สอบผ่านวิชาชีพการดูแลผู้ป่วยสูงอายุ และเพิ่งมาทำงานได้เพียง 2 วัน จากการว่าจ้างของ "เจ๊เมี่ยง" เจ้าของศูนย์ ได้รับเงินค่าจ้าง 15,000 บาท ส่วนชาวเมียนมาได้รับค่าจ้าง 12,000 บาท ทำหน้าที่ช่วยดูแลผู้ป่วย ซึ่งเฉพาะสาขานี้มีผู้ป่วยทั้งสิ้น 17 คน

โดยภายในอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ชั้น 1 มีผู้ป่วยสูงอายุประมาณ 10 เตียง ลักษณะยังพอรับได้ มีที่นอนลมสําหรับผู้ป่วยติดเตียงที่ป้องกันแผลกดทับ ส่วนชั้น 2 จะมีผู้สูงอายุ 3 เตียง และที่ชั้น 3 เมื่อขึ้นไปถึงกับตกใจ แม้ว่าสภาพจะไม่มีเศษปรักหักพังเหมือนกับรูปที่ผู้แจ้งเบาะแสส่งมาให้ทีมงาน

แต่ด้านบนก็ยังพบว่ามีสายไฟโผล่ออกมาจากกำแพงระโยงระยางและฝ้าเพดานก็มีลักษณะสึกกร่อนเห็นโครงเหล็ก กระเบื้องพื้นแตกเกือบทั้งหมดดูแล้วเป็นอันตรายต่อผู้สูงอายุ มีซาก ทีวีและเตียงพังกองอยู่ที่มุมของห้อง ส่วนห้องน้ำให้ใช้ร่วมกันเพียงห้องเดียว มีขวดน้ำสีเหลืองคล้ายกับปัสสาวะถูกทิ้งอยู่นอกหน้าต่าง และบริเวณชั้น 4 ถูกแบ่งเป็นห้องพัก 3 ห้อง มีผู้สูงอายุห้องละ 3-4 คน อยู่ในลักษณะแออัด

ผู้สูงอายุบางคนลูกหลานพามาทิ้งอยู่ที่ศูนย์แห่งนี้ไม่ต่ำกว่า 4 - 5 เดือน ซึ่งน่าตกใจว่า ผู้สูงอายุบางรายเข้าใจว่า ศูนย์แห่งนี้เปิดอย่างถูกต้องและได้รับการดูแลจากหน่วยงานราชการ

ขณะที่การตรวจสอบพบว่า ทั้งสองศูนย์ฯ ไม่ได้ขออนุญาตเปิดกิจการดูแลผู้สูงอายุอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ผิดมาตรฐานด้านสาธารณสุขและไม่เป็นไปตามที่โฆษณา

ส่วนผู้สูงอายุที่สาขาฉลองกรุงจุดนี้มีทั้งหมด 17 คน, ที่สาขาสุวินทวงศ์ ประมาณ 10 คน ซึ่งที่สาขาสุวินทวงศ์ พบว่าผู้สูงอายุบางรายถูกล่ามโซ่ และใช้โซ่ล็อกประตูห้องจากด้านนอก ตามที่มีผู้แจ้งเบาะแสส่งมาจริง

คุณอาจสนใจ

Related News