จับตา ผู้บริหารสถานศึกษา สู้คดีทุจริตสนามฟุตซอล จ.ชัยภูมิ

สังคม

จับตา ผู้บริหารสถานศึกษา สู้คดีทุจริตสนามฟุตซอล จ.ชัยภูมิ

โดย pattraporn_a

17 ม.ค. 2565

724 views

จับตาแนวทางสู้คดีของผู้บริหารสถานศึกษาในจังหวัดชัยภูมิ หลายสิบคน หลังถูก ปปช.แจ้งข้อกล่าวหาและให้ชี้แจงพยานหลักฐาน กรณีถูกกล่าวหาเกี่ยวข้องทุจริตสนามฟุตซอล ร่วมกับเอกชนและนักการเมืองในจังหวัดชัยภูมิ ซ้ำรอยกรณีที่นครราชสีมา ขณะนายกสมาคมพิทักษ์สิทธิ์ผู้บริหารครูฯ เดินหน้าให้คำแนะนำ หวังเป็นช่องทางที่ถูกต้องเพื่อแก้ข้อกล่าวหา


ผู้บริหารสถานศึกษาที่ชัยภูมิ กว่า 60 คน ทะยอยได้รับหนังสือจาก ปปช.แจ้งให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา กรณีถูกกล่าวหามีส่วนเกี่ยวข้องร่วมกันทุจริตจัดซื้อจัดจ้างสนามฟุตซอล ซึ่งเป็นงบประมาณโครงการเดียวกัน กับที่ครู จังหวัดนครราชสีมา ถูกชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรง จนถูกไล่ออก และอยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีร่วมกับนักการเมือง ขณะที่นายกสมาคมพิทักษ์สิทธิผู้บริหารและครู เรียกร้องทุกฝ่ายพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะมั่นใจว่าผู้บริหารสถานศึกษาถูกฝ่ายการเมืองและบริหาร ขีดเส้นให้เดินเพื่อประโยชน์งบประมาณ ทั้งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต หรือได้ประโยชน์ส่วนตัว


ผู้บริหารสถานศึกษา ระดับผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่ และผู้อำนวยการโรงเรีย ทั้งยังรับราชการและเกษียณไปแลว้ ในพืนที่ชัยภูมิ ต้องระดมความเห็นด่วน เพื่อกำหนดแนวทางไปชี้แจงข้อกล่าวหา หลังจากตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้บริหารสถานศึกษากว่า 60 คน ทะยอยได้รับหนังสือแจ้งจากปปช.ให้ไปรับทราบข้อกล่าว กรณีงบประมาณสนามฟุตซอล ที่ถูกกล่าวหาว่าทุจริต โดยมีครูประมาณ 10 คน เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว และอีกส่วนหนึ่ง ประสงค์จะรับทราบข้อกล่าวหาผ่านทางจดหมาย


ผู้อำนวยโรงเรียนคนหนึ่งในจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยกับข่าว 3 มิติว่า โครงการซึ่งผ่านมาตังแต่ปี 2554 และ 2555 รวมกว่า 10 ปี หลายคน เกษียณไปแล้ว บางคนรับราชการ ตอนนี้ต้องกลับมาพิจารรษร่วมกันถึงแนวทางชี้แจงข้อเท็จจริงต่อปปช. ว่าเป็นโครงการที่โรงเรียนตองปฎิบัติตามแนทาง สพฐ.ที่จัดงบประมาณมา โดยคณะครูไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง


ชัยภูมิ เป็นหนึ่งในหลายจังหวัด ที่มีโรงเรียนไดรับงบประมาณแปรญัตติ เพื่อสร้างหรือซ่อมสนามฟุตซอล ร่วมกับนครราชสีมา ซึ่งเปนพื้นที่ติดกัน และอีกหลายังหวัดในภาคอีสาน กลาง และภาคเหนือ /ขณะเดียวกัน ปปช.กเริ่มทะยอยส่งหนังสือแจ้งให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา โดยมีนครราชสีมา ที่ล่วงหน้านำร่องไปก่อน จนนำไปสู่การที่ศาลฏีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ประทับรับฟอง นักการเมืองและผุ้บริหารสถานศึกษานครรมชีมากว่ากว่า 80 คน เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา


ขณะที่นายกสมาคมพิทักษ์สิทธิ์ผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งไปเป็นที่ปรึกษาทางกฎหมายให้ครู ที่ชัยภูมิยอมรับว่า กฎหมาย ปปช.ที่เข้มข้น และครอบคลุมไปถึงคำว่า ส่อเจตนา ก็ถือว่าผิดนัน เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คณะครูในกรณีนี้ได้รับผลกระทบ ทั้งที่ผู้บริหารโรงเรียน ได้รับงบตามขั้นตอน และเจตนาดีต่อนักเรียน แต่กลับถูกดำเนินคดี


นายรัชชัย ยังอ้างอิงว่า จาการไปเปนไปที่ปรึกษาทางการฎหมาย ทำใหเหนชัดเจนว่า ผู้ลริหารสถานศึกษา กำลังเป็นบันได เพื่อไปสู่การเอาผิดนักการเมือง กับเอกชน ซึ่งอาจไม่เป็นธรมกับครู

ก่อนหน้านี้ข่าว 3มิติ ลงพืนที่หลายโรงเรียน ที่ ปปช.อยู่ระหว่างรวบรวมเอกสารหลักฐาน และเปิดให้ครูชีแจง เพื่อนำหลักฐานไปวิเคราะห์ว่าจะชี้มูลความผิดหรือไม่ โดยมีหลายจังหวัดกราะจายกันอยู่เช่น เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ พิษณุโลก อุตรดิตถ์ มุกอาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี สระบุรี และนครปฐม ทังหมดยยู่ระหว่างที่ปปช.พิจารณา ว่าจะแจงข้อกล่าวหาหรือไม่ และหากแจงขอกล่าวหา ก็จะให้ชี้แจงข้อกล่าวหา เพื่อพิจารณาต่อว่าจะชี้มูลความผิด

คุณอาจสนใจ

Related News