พรรคประชาธิปัตย์ ประกาศชัยชนะ เลือกตั้งซ่อมส.ส. 2 เขต ทั้งที่ ชุมพร และ สงขลา รักษาที่นั่งเดิมไว้ได้ ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ ยอมรับผลเลือกตั้ง ที่สงขลาแบบสูสี

ผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 1 จังหวัดชุมพร และ เขต 6 จังหวัดสงขลา พรรคประชาธิปัตย์ คว้าชัยชนะไปได้ทั้ง 2 เขต รักษาที่นั่งเดิมไว้ได้ โดยที่จังหวัดชุมพร ชนะแบบทิ้งห่าง แต่ที่เขต 6 จังหวัดสงขลา ชนะ พรรคพลังประชารัฐ แบบสูสี ซึ่งแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ แถลงขอบคุณคนใต้ที่ไม่ทิ้งพรรคประชาธิปัตย์ สามารถสร้างประวัติศาสตร์ มีส.ส.หญิงคนแรกของจังหวัดสงขลา ส่วนพรรคพลังประชารัฐ แถลงยอมรับผลการเลือกตั้งและยินดีกับพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลที่ชนะเลือกตั้ง

ผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 1 จังหวัดชุมพร และ เขต 6 จังหวัดสงขลา พรรคประชาธิปัตย์ คว้าชัยชนะไปได้ทั้ง 2 เขต รักษาที่นั่งเดิมไว้ได้ โดยที่จังหวัดชุมพร ชนะแบบทิ้งห่าง แต่ที่เขต 6 จังหวัดสงขลา ชนะ พรรคพลังประชารัฐ แบบสูสี ซึ่งแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ แถลงขอบคุณคนใต้ที่ไม่ทิ้งพรรคประชาธิปัตย์ สามารถสร้างประวัติศาสตร์ มีส.ส.หญิงคนแรกของจังหวัดสงขลา ส่วนพรรคพลังประชารัฐ แถลงยอมรับผลการเลือกตั้งและยินดีกับพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลที่ชนะเลือกตั้ง

ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ นายสุชาติ ชมกลิ่น ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้ง เขต 6 จังหวัดสงขลา แถลงขอบคุณชาวเขต 6 สงขลา ที่แม้จะแพ้เลือกตั้งแต่คะแนนที่ได้เป็นไปตามเป้าหมาย และถือว่าแพ้แบบสูสี ที่ต้องแสดงความยินดีกับพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ที่ยังทำงานร่วมกันต่อไป และผลเลือกตั้งที่ได้ทำให้พรรคพลังประชารัฐ จะตั้งใจทำงานในพื้นที่ต่อไป เพราะแสดงให้เห็นว่า นายอนุกูล พฤษานุศักดิ์ เป็นคนรุ่นใหม่ที่จะมีอนาคตไกลทางการเมือง

สำหรับเขตเลือกตั้ง ที่ 6 จังหวัดสงขลา พรรคก้าวไกล ได้คะแนนไปกว่า 5 พันคะแนน ส่วน พรรคกล้าได้กว่า 1 พัน คะแนน พรรคพลังสังคมกว่า 100 คะแนน ซึ่งมีคะแนนที่ทิ้งห่างอย่างมาก แต่สำหรับพรรคก้าวไกล นายธิวัช ดำแก้ว ยอมรับว่าการได้คะแนนเท่านี้ ก็ไม่เสียใจ เพราะเป็นการปักธงทางความคิดที่พร้อมทำงานต่อในพื้นที่ต่อไป

ส่วนบรรยากาศการมาใช้สิทธิเลือกตั้งถือว่าคึกคักมีผู้มาใช้สิทธิกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ กว่า 95,000 คน จากผู้มีผู้สิทธิ 120,000 คน ถือว่ามากกว่าการเลือกตั้งปี 62 และตลอดทั้งวันไม่พบแจ้งเหตุทุจริต หรือทำผิดกฏหมายเลือกตั้ง

การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 6 สงขลา ถือเป็นการแข่งขันที่ดุเดือด ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคพลังประชารัฐ ที่แม้จะเป็นที่นั่งเดิมของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เลือกตั้งแทน นายถาวร เสนเนียม แต่พรรคพลังประชารัฐ ก็มีความคาดหวังจะชนะการเลือกตั้งในพื้นทีนี้ เนื่องจากในจังหวัดสงขลา พรรคพลังประชารัฐ มีส.ส.แล้ว 4 คน จากจำนวน 8 คน จึงคาดหวังจะได้ ส.ส.เพิ่มเป็น คนที่ 5 ใน

ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ ส่งภรรยานายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา ที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งเป็นรองหัวหน้าพรรคภาคใต้ ต้องการรักษาพื้นที่ของพรรคประชาธิปัตย์ไว้ให้ได้ จึงกลายเป็นศึกศักดิ์ศรีที่สำคัญ และหากพรรคประชาธิปัตย์แพ้ทั้ง 2 เขต ก็อาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ต่อพรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงเดิมพันความเป็นพรรคคนใต้ แต่ผลที่ชนะทั้งสองเขต ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ ยังรักษาศักดิ์ศรีไว้ได้ และจากคะแนนที่ห่างกันเพียงกว่า 4 พันคะแนน

ทำให้ในพื้นที่มีการประเมินกันว่า จุดตัดขาดผลคะแนน ที่ชี้วัดระหว่างพรรคประชาธิปัตย์ กับ พรรคพลังประชารัฐ น่าจะมาการปราศัยของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ที่มาปราศัยในจังหวัดสงขลา ระบุว่าให้เลือคนรวยหน้าตาดี ที่เชื่อกันว่าคนใต้ไม่ชอบใจสิ่งนี้ และสำหรับผลการเลือกตั้งที่แม้จะแพ้พรรคประชาธิปัตย์ แต่ก็เป็นตัวชี้วัดภายในพรรคพลังประชารัฐ ที่สะเทือนถึงบทบาทของร้อยเอกธรรมนัส ที่มาคุมเกมการเลือกตั้งแล้วพ่ายแพ้ทั้ง 2 เขต ที่มีผลต่ออำนาจนำภายในพรรคที่ร้อยเอกธรรมนัส ต้องการลงเลือกตั้งเพื่อวัดกระแสของพรรคพลังประชารัฐ แต่ผลเลือกตั้งที่ออกมากลับสะท้อนว่าคะแนนนิยมของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี น่าจะมีอิทธิพลมากกว่า แนวคิดนี