กรณีโรค ASF ในหมู ล่าสุด นายกรัฐมนตรี ก็ได้เรียก "กรมปศุสัตว์" มาชี้แจงด่วนที่ทำเนียบ และกำชับเรื่องการสำรวจปริมาณหมูที่หายไปจากระบบ ขณะที่อธิบดีปศุสัตว์ ระบุขอเวลา 8-12 เดือนเร่งแก้ไขปัญหา ยืนยัน ไม่มีการปกปิดข้อมูล และไม่ถอดใจในการทำงาน



ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการเข้าพบ นายกรัฐมนตรี แล้วเสร็จ นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ และ นายสัตวแพทย์กิจจา อุไรรงค์ อาจารย์คณะสัตวแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งเป็นคนที่ร่วมคณะมาด้วย ได้สวมกอดให้กำลังใจกัน บริเวณด้านหลังตึกไทยคู่ฟ้า



โดยอธิบดีกรมปศุสัตว์ บอกว่า วันนี้ ท่านนายกรัฐมนตรี ได้เรียกตนมาสอบถามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหา อหิวาต์แอฟริกาในสุกร หรือ ASF ที่ส่งผลทำให้ราคาหมูปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งท่านนายกฯ ได้สั่งการให้ควบคุมโรค โดยเร็วที่สุด และมีประสิทธิภาพประสิทธิผล และฟื้นฟูเกษตรกร โดยเฉพาะเกษตรกรรายย่อย ว่าจะมีการช่วยเหลืออย่างไรบ้าง



ส่วนกรณีที่นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุว่า ไม่ทราบจำนวนหมูหายไปไหน อธิบดีกรมปศุสัตว์ ระบุว่า "ปกติถ้ามีการแจ้งมากรมปศุสัตว์ ก็จะมีการตรวจสอบ และเก็บตัวอย่าง ซึ่งท่านนายกฯ ได้สั่งการให้สำรวจปริมาณหมู ที่สูญหายไปจากระบบ โดยให้กระทรวงมหาดไทยเข้ามาช่วยเหลือ พร้อมสอบถามถึงราคาหมู ที่เข้ามาในระบบทั้งหมดจะแล้วเสร็จเมื่อใด ซึ่งตน ก็มีรายงานไปว่าจะใช้เวลา 8-12 เดือน



ขณะที่ประเด็นที่บอกว่ากรมปศุสัตว์นั้นปกปิดการแพร่ระบาด ทางอธิบดีกรมปศุสัตว์ ย้ำว่า เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีเข้าใจ และได้รายงานมาโดยตลอด พร้อมบอกว่า "หากเราปกปิดคงไม่สามารถส่งออกไปต่างประเทศได้"



อธิบดีกรมปศุสัตว์ ระบุว่าไม่ทราบ ถึงกรณีที่มีการข่มขู่เกษตรกร พี่ออกมาเปิดเผยข้อมูลการแพร่ระบาดในพื้นที่ย้ำว่า ไม่ถอดใจในการทำงาน เพราะตั้งแต่ทำงานมา ก็ผ่านโรคระบาดมาหลายครั้ง พร้อมให้ความมั่นใจ ว่า เนื้อหมูยังสามารถบริโภคได้ตามปกติ แต่ต้องเน้นสุขอนามัยที่ต้องกินสุก และไม่มีพิษภัยต่อคน จึงขออย่าตระหนก

ชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/axP1cxYIySc