'โอมิครอน' แพร่ไว-หนีภูมิคุ้มกันได้ดี คาดหลังปีใหม่ระบาดในไทย อาจเห็นติดเชื้อวันละหลายหมื่น

สังคม

'โอมิครอน' แพร่ไว-หนีภูมิคุ้มกันได้ดี คาดหลังปีใหม่ระบาดในไทย อาจเห็นติดเชื้อวันละหลายหมื่น

โดย thichaphat_d

23 ธ.ค. 2564

474 views

โหนกระแสวันนี้ พูดคุยสถานการณ์โควิดโอมิครอนในไทย ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) เผยว่า ความน่ากลัวของเชื้อโอมิครอนคือแพร่กระจายไว และหลีกหนีภูมิคุ้มกันได้ดี แม้ว่าเราจะฉีดวัคซีนไปแล้ว หรือเคยติดเชื้อโควิดก็ตาม ทำให้ทุกคนมีโอกาสติดเชื้อโอมิครอนได้เท่าๆกัน โดยไม่ต้องคำนึงถึงภูมิคุ้มกันว่ามีอยู่เท่าไหร่

แต่ความรุนแรงอาจไม่เจออาการหนักเหมือนโควิดรอบก่อนๆ เช่น ปอดติดเชื้อต้องเข้าไอซียู เป็นเพราะการฉีดวัคซีนที่ทำให้ความรุนแรงลดลงได้ พูดง่ายๆว่า ไวรัสไม่ได้ดุน้อยลง แต่เป็นที่เรามีอาวุธที่ช่วยป้องกันได้เก่งขึ้น

วัคซีนมีการป้องกัน 2 ระดับ คือป้องกันการติดเชื้อ ซึ่งยังไม่มีวัคซีนใดในโลกสามารถป้องกันได้ แต่ในระดับป้องกันอาการหนัก วัคซีนยังสามารถช่วยป้องกันได้

โอกาสที่แพร่กระจายในไทยจะเกิดขึ้นได้รวดเร็วกว่าเดลตา ที่เจอในแคมป์คนงานเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา หากขณะนี้มีผู้ติดเชื้อหลักสิบคนกระจายอยู่ โดยไม่สามารถตรวจพบได้ คาดว่าหลังปีใหม่อาจเจอในระดับร้อย ระดับพันคนได้

คาดว่าอาจมีจำนวนคนติดมากกว่า 1 หมื่นคนต่อวัน ซึ่งจะมากกว่าเดลตา 2-3 เท่า อาจเจอติดเชื้อโอมิครอนสูงสุด 6 หมื่นคนต่อวัน เหมือนที่เห็นจากหลายประเทศ โดยเฉพาะอังกฤษที่ติดเชื้อหลักแสนคน

ซึ่งทาง WHO ยอมรับว่าโควิด-19 มีการแพร่กระจายทางอากาศ มีกรณีที่ฮ่องกง พบนักท่องเที่ยว 2 คนมาจากต่างสถานที่ คือแคนาดาและแอฟริกาใต้ มาพักห้องตรงข้ามกัน แต่ไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กัน ไม่เคยพูดคุยกัน เคยแค่เปิดประตูมารับอาหารหน้าห้องช่วงกักตัว ปรากฏว่าชาวแอฟริกาใต้ป่วยก่อน ในวันต่อมาชาวแคนาดาป่วยตาม โดยเป็นไวรัสที่เหมือนกัน 100% ทำให้อนุมานว่าเป็นการติดเชื้อทางอากาศ โดยเฉพาะในพื้นที่ปิด อากาศไม่ถ่ายเท

ด้าน ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า โควิดโอมิครอนมีความน่ากลัว เพราะการแพร่กระจายเร็ว โดย 3 สัปดาห์ถัดจากนี้ไป จะพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากกว่าเดลตา 3 เท่า การตรวจ ATK มีความแม่นยำประมาณ 50% อาจมีการหลุดรอดในการตรวจเชื้อ

ยืนยันว่าการฉีดวัคซีนในเด็กขณะนี้มีความปลอดภัย เพื่อลดอัตราการแพร่กระจายเชื้อในประชากร เพราะเด็กมักมีปฏิสัมพันธ์ใกล้ชิดมากกว่าผู้ใหญ่

การฉีดชั้นผิวหนังใช้ปริมาณวัคซีนน้อยกว่า โดยเป็นการฉีดกลไกคนละชนิดกับการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ซึ่งจะมีความปลอดภัยกว่าการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ

สำหรับ สถานการณ์โอมิครอนในขณะนี้ต้องดูกันแบบรายวัน อย่างไรก็ตาม คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ในการพบปะสังสรรค์ช่วงปีใหม่ แนะให้อยู่ในที่โล่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก ตรวจ ATK ก่อนเข้างาน ไม่ใช่แจ้งผลตรวจเมื่อ 3 วันก่อน และการใส่หน้ากากอนามัย การล้างมือบ่อยๆ ยังเป็นสิ่งจำเป็น



คุณอาจสนใจ

Related News