วันที่ 6 ธ.ค. 2564 นายระวี ตะวันธรงค์ นายกสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ โพสต์เฟซบุ๊กเตือนให้ระวัง เรื่องค่าใช้จ่ายโรงพยาบาล โดยระบุว่า อาม่าภรรยาเข้าโรงพยาบาลเมื่อคืนเกือบ 5 ทุ่ม จากอาการนอนไม่หลับ สับสน

ผ่านไป 12 ชั่วโมง เช้านี้หมอให้กลับบ้านได้ พร้อมค่าใช้จ่าย 44,000 ด้วยความที่เคยมีเหตุการณ์คิดเงินเกินไปครั้งก่อนแล้ว ครั้งนี้เลยต้องขอตรวจรายละเอียดทุกตัวหนังสือเจอ “ค่าเวชภัณฑ์” ในการอยู่โรงพยาบาลแค่ 12 ชั่วโมง 11,000 บาท เจอค่าใช้จ่ายแปลก ๆ

เช่น ค่าถุงมือยาง 1,728 บาท จำนวน 108 ชิ้น, ท่อดูดเสมหะ 2,175 บาท จำนวน 25 ชิ้น อยู่ 12 ชั่วโมง ใช้เยอะขนาดนั้น เมื่อตรวจสอบเสร็จ มีค่าใช้จ่ายที่เกินมาเกือบ 6,000 บาท โดยที่เราก็ไม่ได้ใช้ แล้วเราจะต้องจ่ายทำไม นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ครั้งก่อนก็เกินไป 7,000 บาท

ลองนึกดูว่าคิดเงินคนป่วยเกินในทุกวันคนละ 5,000 เดือนนึง ซัก 100 คน จะเป็นเงินเท่าไหร่ ถ้าผู้ป่วยหรือญาติไม่ทักท้วงให้ตรวจสอบ ขอย้ำเตือนให้ทุกท่านตรวจสอบค่าใช้จ่ายอย่างละเอียดมาก ๆ ก่อนออกจากโรงพยาบาลทุกครั้งนะครับ อย่าวางใจเรื่องค่าใช้จ่าย

ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังนายระวี เผยว่า โรงพยาบาลดังกล่าวเป็นโรงพยาบาลเอกชนใกล้บ้าน ซึ่งอาม่าภรรยา มีประวัติการรักษาโรงพยาบาลนั้น โดยหลังจากที่ไปถึงโรงพยาบาลแล้วก็แอดมิทนอนห้องผู้ป่วยธรรมดา เช้าวันรุ่งขึ้นเวลาประมาณ 9 โมง หมอบอกให้กลับบ้านได้เพราะอาการไม่เป็นอะไรมากและให้ยาคลายเครียด ยาลดอาการมึนมากิน

พอตรวจสอบดูบิลค่าใช้จ่ายรายละเอียดทุกรายการถึงกับตกใจ มีค่าใช้จ่ายที่เกินมาเกือบ 6,000 บาท (รายละเอียดตามที่โพสต์) สอบถามทางโรงพยาบาลบอกว่า คิดค่าถุงมือยาง 1,728 บาท จำนวน 108 ชิ้น เพราะนำมาให้ทั้งกล่อง ทั้งที่ใช้ไม่มาก ท่อดูดเสมหะ 25 ชิ้น ใช้เพียง 1 ชิ้น

ตนมองว่าในเมื่อไม่ได้ใช้ทั้งหมดทำไมต้องจ่ายเงินทั้งหมด ค่าใช้จ่ายที่ทางโรงพยาบาลคิดเกินจริงนั้นไม่ใช่ค่าห้อง ค่ายา หรือค่าหมอ แต่จะระบุว่าเป็นค่าเวชภัณฑ์อย่างเดียว รายละเอียดที่ตนระบุนั้นแค่เบื้องต้นเท่านั้น จริง ๆ มีค่าหน้าหน้ากาอนามัยอีก

นายระวี กล่าวต่อว่า เวลาเราเข้าโรงพยาบาลจะรู้แค่ว่าแอดมิทมีค่าห้องพัก ค่าหมอ ค่ายา แต่มันมีค่าใช้จ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เป็นค่าเวชภัณฑ์ หลายครั้งตนไม่เคยตรวจสอบบิลค่าใช้จ่าย แต่ครั้งนี้จึงได้ทำการตรวจสอบดูจึงได้ทราบว่า ทางโรงพยาบาลคิดค่าใช้จ่ายเกินจริง

ฝากถึงทุกคนต้องตรวจสอบอย่างละเอียด ระมัดระวัง ตรวจแล้วถ้ารับได้ก็เอาของกลับบ้าน บางคนไม่เอากลับทิ้งไว้ที่โรงพยาบาล ทั้งที่ทางโรงพยาบาลคิดเงินไปแล้ว หากเห็นแย้งให้แจ้งกับโรงพยาบาล

กรณีเคสของตนพอพบข้อสังเกตเรื่องค่าใช้จ่าย ตนก็ได้สอบถามฝ่ายการเงินของโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่เช็ควอร์ดแจ้งว่า เบิกค่าเวชภัณฑ์มาเผื่อไว้ก่อน พอคีย์รายละเอียดก็คิดค่าใช้จ่ายรวมไปทั้งหมด สุดท้ายก็ไม่ได้จ่ายเงินที่เกินมาเกือบ 6,000 บาท แล้วออกบิลใหม่ให้

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/uxe1Rlt2CAg