สถานการณ์โควิด นายน์ทีน สายพันธุ์ "โอมิครอน"ยังคงพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดพบแล้วกว่า 40 ประเทศทั่วโลก ซึ่งรวมถึงไทยด้วย แม้ว่าจะมีแนวโน้มผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น แต่ ผู้เชี่ยวชาญสหรัฐฯ ชี้ เชื้อโอมิครอน อาจมีความรุนแรงน้อยกว่า เชื้อ เดลต้า หลังจากที่มีการพบผู้ติดเชื้อโควิด นายน์ทีน สายพันธุ์ "โอมิครอน" รายแรกในแอฟริกาใต้ เพียงไม่ถึง 2 สัปดาห์ ล่าสุด พบผู้ติดเชื้อ "โอมิครอน" เพิ่มขึ้น อย่างน้อย 47 ประเทศทั่วโลกแล้ว

โดยงานเลี้ยงคริสต์มาสที่นอร์เวย์ กลายเป็นจุดแพร่ระบาดที่ใหญ่ที่สุดที่อยู่นอกแอฟริกาใต้ ขณะที่สหรัฐฯ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ขยายวงกว้างตามรัฐต่างๆ อย่างน้อย 17 รัฐ จากทั้งหมด 50 รัฐ หรือ 1 ใน 3 ของประเทศ และดูเหมือนว่า จะพบผู้ติดเชื้อ โอมิครอนเพิ่มขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้ จากการศึกษาเบื้องต้นของนักวิทยาศาสตร์ หลายคนชี้ในทางเดียวกันว่า เชื้อ โอมิครอน แพร่ระบาดได้เร็วกว่า เชื้อ เดลต้า 2 เท่า ทำให้หลายฝ่ายเริ่มวิตกกังวล ถึงทิศทางการแพร่ระบาดของโอมิครอน (ภาพ ด็อกเตอร์ เฟาซี่ ) ล่าสุด ด็อกเตอร์ แอนโธนีย์ เฟาซี่ ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงของสหรัฐฯ ให้ความเห็นกับสื่อท้องถิ่นสหรัฐฯ ว่า เชื้อกลายพันธุ์ "โอมิครอน" ดูเหมือนจะมีความรุนแรงน้อยกว่า เชื้อ "เดลต้า" ที่พบครั้งแรกในอินเดีย แต่ก็เตือนว่า นักวิทยาศาตร์ยังคงต้องการหาข้อมูลเพิ่ม เพื่อหาคำตอบว่า มีการแพร่ระบาดได้รวดเร็วอย่างไร และ วัคซีนที่มีอยุ่ มีประสิทธิภาพต้านทาน โอมิครอนได้หรือไม่

แม้ว่าการพบผู้ติดเชื้อ โอมิครอน ในสหรัฐฯ จะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น แต่ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ ชี้ว่า "เดลต้า"ยังคงเป็นสายพันธุ์ ที่ทำให้ผู้ติดเชื้อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล โดยจากข้อมูลพบว่า ร้อยละ 99.9 ของผู้ติดเชื้อรายใหม่ เป็นสายพันธุ์เดลต้า (ภาพ คนเดินทางในสหรัฐฯ) ทั้งนี้ ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในสหรัฐฯ เฉลี่ยวันละ121,437 คน ซึ่งถือว่าสูงสุดในรอบ 2 เดือน โดยปัจจัยมาจาก ชาวอเมริกันหลายล้านคน เดินทางกลับการท่องเที่ยวและเยี่ยมครอบครัว ในช่วงวันหยุดยาววันขอบคุณพระเจ้าเมื่อปลายเดือนที่แล้ว

ขอบคุณภาพจาก www.voathai.com