มีกรณีผู้เสียหายถูกหลอกให้ซื้อสินค้าออนไลน์ โดยอ้างว่าจะได้ค่าคอมมิชชั่นตอบแทน แต่โอนเงินไปกว่า 1 หมื่นบาท กลับติดต่ออีกฝ่ายไม่ได้ ผู้เสียหายจึงไปอายัดบัญชีและตามล่าหาตัวเจ้าของบัญชี จนกระทั่งไปเจอตัวที่บ้าน ซึ่งเจ้าของบัญชียอมรับว่า รับจ้างเปิดบัญชีธนาคารขาย

ผู้เสียหาย คือคุณแป้ง เล่าว่า เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. มีผู้หญิงคนหนึ่งโทรมาหา อ้างว่า มาจากร้านค้าในแอปพลิเคชั่นหนึ่ง ซึ่งคุณแป้งเองก็เปิดร้านขายของในแอปนี้เช่นกัน ผู้หญิงคนดังกล่าว ถามคุณแป้งว่า สนใจจะซื้อของในราคาถูก โดยทางร้านจะมีค่าคอมมิชชันให้ จากนั้นก็ส่งลิงก์มาให้ พอคลิกเข้าไป ก็จะพาไปยังหน้าเว็บไซต์ขายของแห่งหนึ่ง

คุณแป้งจึงลงทะเบียนสมัครเป็นสมาชิก และลองสั่งซื้อของในราคา 200 บาท พอโอนเงินไปแล้ว ก็ได้เงินกลับมาเป็น 220 บาท หลังจากนั้นคุณแป้งก็ลองโอนเงินเป็นจำนวนน้อยๆ ก่อน ซึ่งก็ได้เงินกลับคืนมาทุกครั้งพร้อมค่าคอมมิชชัน

หลังจากนั้น ทางผู้หญิงคนดังกล่าวถามว่า ตอนนี้มีสินค้าราคา 5 พันบาท คุณแป้งสนใจหรือไม่ คุณแป้งก็ตกลงโอนเงินซื้อสินค้าชนิดนั้นไป แต่คราวนี้ ไม่มีการโอนเงินกลับมา

พอสอบถาม ผู้หญิงคนดังกล่าวบอกว่า เพราะคุณแป้งเข้าไปอยู่ในกลุ่มวีไอพีแล้ว จะต้องโอนเงินอีก 5 พันบาท แล้วระบบจะโอนเงินจำนวน 13,700 บาทให้คุณแป้ง ด้วยความที่อยากได้เงินคืน คุณแป้งตัดสินใจโอนเงินไป แต่หลังจากนั้นก็ติดต่อผู้หญิงคนดังกล่าวไม่ได้อีกเลย

วันที่ 3 ธ.ค.คุณแป้งไปแจ้งความที่ สภ.บางบัวทอง จากนั้นไปธนาคาร เพื่อขออายัดบัญชีธนาคารที่คุณแป้งโอนเงินไปให้ โดยมีหลักฐานเลขบัญชีและชื่อเจ้าของบัญชี แต่ทางธนาคารแจ้งว่า มีคนมาขออายัดบัญชีไปแล้ว คุณแป้งจึงพยายามตามหาเจ้าของบัญชี โดยตามไปที่บ้านเจ้าของบัญชี ที่ย่านสายไหม แต่คนแถวนั้นบอกว่า ย้ายไปนานแล้ว คุณแป้งไม่ละความพยายาม โดยแชร์เรื่องราวลงโซเชียล เพื่อขอแรงชาวเน็ตแจ้งเบาะแส

จนกระทั่งนางสาวทิพวรรณ หญิงสาวเจ้าของบัญชีติดต่อมาที่คุณแป้ง และบอกว่าตนเองไม่ได้โกง แต่เป็นคนเปิดบัญชีธนาคารดังกล่าวให้กับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง คุณแป้งจึงไปพบกับนางสาวทิพวรรณ จากนั้นนางสาวทิพวรรณ ก็พาคุณแป้งไปหาคนจ้างเปิดบัญชี

แต่ในตอนแรก คนจ้างเปิดบัญชีไม่ยอมรับ โดยอ้างว่าไม่รู้ไม่เห็น แต่นางสาวทิพวรรณ เถียงว่า เธอเปิดบัญชีในชื่อของเธอ แล้วก็เอาบัญชีให้คนจ้างกับมือ มีการเถียงโยนกันไปมาสักพัก จนกระทั่งหญิงที่เป็นคนจ้างเปิดบัญชี ก็หลุดปากออกมาว่า เอาบัญชีของนางสาวทิพวรรณ ไปขายต่อในเฟซบุ๊กแล้ว และไม่รู้ว่าใครเอาไปทำอะไรบ้าง

พร้อมถามว่า ต้องทำยังไง พยายามจะให้เจ้าของบัญชีกดเงินมาคืนผู้เสียหาย แต่บัญชีดังกล่าวถูกอายัดไปแล้ว ตำรวจ สภ.บางบัวทอง จึงให้ทั้งหมดไปโรงพัก

สุดท้ายหญิงจ้างเปิดบัญชีก็ยอมรับว่าจ้างคนอื่นเปิดบัญชีจริงๆ และเสนอเงินชดใช้ให้คุณแป้ง พร้อมกระเช้าขอโทษ แต่คุณแป้งไม่ยินยอม ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ด้านนางสาวทิพวรรณ คนรับจ้างเปิดบัญชี บอกว่า เธอเดือดร้อนเรื่องเงินและอยากจะหากู้เงิน แต่แม่ของเพื่อนสนิท ชวนให้เอาชื่อไปเปิดบัญชีธนาคาร เพื่อเอาไปขายของออนไลน์ เธอจึงยอมเปิดให้ โดยแลกกับเงิน 1 พันบาท จากนั้นก็เอาบัญชีให้กับแม่ของเพื่อนสนิท โดยไม่รู้ว่าจะถูกเอาบัญชีไปทำอะไร สุดท้ายกลายเป็นว่าไปร่วมขบวนการมิจฉาชีพด้วย และถูกขู่ด้วยว่าอย่าเอาเรื่องไปเปิดเผย ไม่อย่างนั้นจะเดือดร้อน

ผู้เสียหายเปิดเผยว่า ขณะนี้ สภ.บางบัวทอง กำลังดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมทั้งชมตำรวจที่ทำงานได้อย่างรวดเร็ว -พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสตร์ ผู้กำกับการ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เปิดเผยว่า ตำรวจควบคุมตัว น.ส.บังอร ธนูชัย อายุ 38 ปี / นายกฤษณะ สุขกล่ำ อายุ 33 ปี และ น.ส.ทิพย์วรรณ มากสวาสดิ์ อายุ 21 ปี พร้อมของกลาง สลิปการโอนเงิน พร้อมแจ้งข้อหา ร่วมกันสนับสนุนฉ้อโกง

โดยขณะนี้สอบปากคำผู้เสียหายผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยนางสาวทิพวรรณ รับสารภาพว่ารับจ้างเปิดบัญชีจริง แต่สองสามีภรรยาผู้ว่าจ้าง ยังให้การปฎิเสธ โดยอ้างว่าได้ถูกจ้างให้เปิดบัญชีอีกทอดหนึ่ง โดยมีการส่งบัญชีทั้งหมดไปปลายทางที่ อ.อรัญประเทศ

ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ จึงจะสืบสวนขยายผลหาตัวบุคคลที่ถอนเงินออกจากบัญชีต่อไป ส่วนผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 คน จะถูกนำตัวส่งฟ้องศาลเพื่อดำเนินคดีตามความผิดที่ปรากฎ

สำหรับการซื้อขายบัญชี หรือการรับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร มีความผิดทางคดีอาญา อาจเข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาท -200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/9oxysdMgrSA