สังคม
กรมราชทัณฑ์ เผยเกณฑ์นักโทษ ได้รับพระราชทานอภัยโทษ 5 ธ.ค.64 เพื่อให้กลับตัวเป็นพลเมืองดี
โดย thichaphat_d
6 ธ.ค. 2564
129 views
นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2564
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ทั่วประเทศ ที่มีความประพฤติดีให้ได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษ และปล่อยตัว ตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ เพื่อให้โอกาสแก่บุคคลเหล่านั้นกลับประพฤติตนเป็นพลเมืองดี อันจะเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไป
โดยในครั้งนี้จะมีผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ จำนวน 2 กลุ่ม คือ
(1) กลุ่มที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัว ได้แก่ ผู้ต้องกักขัง ผู้ทำงานบริการสังคมหรือทำงานสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับ ผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวคุมประพฤติที่มีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น เหลือโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี รวมถึงผู้พิการ ผู้ที่เป็นโรคร้ายแรง และชราภาพ เป็นต้น
และ (2) กลุ่มที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษลดโทษ ได้แก่ ผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวคุมประพฤติและผู้ต้องราชทัณฑ์นอกเหนือจากกลุ่มแรก โดยผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวคุมประพฤติจะได้รับพระราชทานอภัยโทษลดโทษและลดระยะเวลาคุมประพฤติลงครึ่งหนึ่ง ส่วนนักโทษเด็ดขาดจะได้รับการลดโทษในอัตราส่วนมากหรือน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับชั้นนักโทษและฐานความผิด
ในส่วนของผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ไม่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ตามพระราชกฤษฎีกาฯ ฉบับนี้ ประกอบไปด้วย
1.ผู้กระทำความผิดซ้ำและไม่ใช่นักโทษเด็ดขาดชั้นเยี่ยม
2.นักโทษเด็ดขาดชั้นต้องปรับปรุงหรือชั้นปรับปรุงมาก
3.ผู้กระทำความผิดในคดียาเสพติดรายใหญ่ที่พึ่งรับโทษจำคุกภายหลังพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2564 (28 กรกฎาคม 2564) บังคับใช้
4.และผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ถูกศาลลงโทษประหารชีวิตที่เคยได้รับพระราชทานอภัยโทษแล้ว
ทั้งนี้ พระราชกฤษฎีกาฯ ฉบับนี้ ได้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ วันที่ 6 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป โดยระบุให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 120 วัน นับแต่พระราชกฤษฎีกามีผลบังคับใช้
นายอายุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมราชทัณฑ์ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และเอกชน ได้ร่วมกันเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยให้กับผู้ต้องราชทัณฑ์ ในระหว่างที่ถูกควบคุมตัวอยู่ภายในเรือนจำและทัณฑสถาน ทั้งการให้การศึกษา อบรมพัฒนาจิตใจ การฝึกทักษะอาชีพ การแนะแนวการประกอบอาชีพ
โดยเฉพาะโครงการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย โครงการพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว “โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์” ที่มีการอบรมในหลักสูตรฝึกปฏิบัติการเกษตรทฤษฎีใหม่ในพื้นที่ขนาดเล็กให้แก่ผู้ต้องขัง ภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อให้มีความรู้ติดตัว สามารถนำไปประกอบอาชีพภายหลังพ้นโทษได้
อีกทั้ง ยังได้ร่วมกับเครือข่ายภาคสังคม ติดตาม ดูแล และช่วยเหลือผู้พ้นโทษ โดยหวังว่าสังคม ตลอดจนผู้ประกอบการ หรือห้างร้านบริษัทต่างๆ จะให้โอกาสผู้พ้นโทษเข้าทำงาน ร่วมให้กำลังใจและเปิดใจยอมรับผู้ก้าวพลาด ให้ได้กลับตัวเป็นคนดีของสังคม ไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก
ทั้งนี้ ผู้พ้นโทษที่จะได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำและทัณฑสถานทุกแห่ง จะต้องผ่านการตรวจคัดกรอง และกักตัวตามมาตรการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของกรมราชทัณฑ์อย่างเคร่งครัด
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/ilfRjNIVZrE