วันที่ 4 ธ.ค.64 นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย และการท่าเรือแห่งประเทศไทย แถลงข่าวจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ณ ศูนย์เอกซเรย์และเทคโนโลยีศุลกากร สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ

นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. กรมศุลกากร โดยกองสืบสวนและปราบปราม ได้ประมวลความเสี่ยงการลักลอบยาเสพติดออกนอกราชอาณาจักร และได้ทำการตรวจค้นพบใบขนสินค้ามีลักษณะตรงตามข้อมูลความเสี่ยง ตรงตามที่สืบค้นในการกระทำผิดด้านยาเสพติด

ภายหลังได้รับข้อมูลจากการตรวจสอบใบขนสินค้าที่มีลักษณะตรงตามที่ได้รับแจ้งมาว่า จะมีการลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาในราชอาณาจักรไทย

เจ้าหน้าที่สุ่มตรวจสอบสินค้าต้องสงสัย ที่ศูนย์เอกซเรย์และเทคโนโลยีศุลกากรสำนักงานศุลกากรท่าเรือ กรุงเทพฯ โดยตรวจสอบ ในลังกระดาษสีน้ำตาล จำนวน 24 ลัง พบว่ามีแผ่นซิลิโคน จำนวน 161 แผ่น เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดกลับพบว่าในแผ่นซิลิโคนดังกล่าวมีไอซ์ ซุกซ่อนอยู่

จึงทำการอายัด และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย ร่วมกันตรวจสอบสินค้าต้องสงสัยดังกล่าว ณ ศูนย์เอกซเรย์และเทคโนโลยีศุลกากร สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ

เมื่อเปิดแต่ละลังออก พบแผ่นซิลิโคนปูพื้นขนาด 40 x 40 เซนติเมตร 2 ชนิด คือ แผ่นซิลิโคน น้ำหนัก 4.5 กิโลกรัม จำนวน 46 แผ่น และแผ่นซิลิโคนน้ำหนัก 6 กิโลกรัม จำนวน 115 แผ่น รวม 161 แผ่น จากการตรวจสอบพบว่าแต่ละชิ้นมีน้ำหนักและขนาดที่ไม่เท่ากัน และได้ตรวจสอบอย่างละเอียด พบวัตถุต้องสงสัยลักษณะเป็นเกล็ด สีขาวขุ่นอยู่ภายในแผ่นซิลิโคน จึงได้นำตัวอย่างวัตถุต้องสงสัยมาทดสอบเบื้องต้นด้วยน้ำยาเคมี ONCB 051 MARQUIS REAGENT พบเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 897 กิโลกรัม มูลค่า 538,200,000 บาท

สำหรับการจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่พบว่ายาเสพติดที่ซุกซ่อนมากับสินค้าล็อตดังกล่าว ใช้ชื่อในนามนิติบุคคลรายหนึ่งเป็นผู้ส่งสินค้าไปยังประเทศไต้หวัน ส่วนจะมีความเชื่อมโยงกับการตรวจยึดเฮโรอีนกว่า 400 กิโลกรัม ของทางการไต้หวันไปก่อนหน้านี้หรือไม่นั้น อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผล โดยขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติรายนี้ จะใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านในการขนลำเลียงยาเสพติด

หากไอซ์ล็อตนี้ไปถึงไต้หวันจะมีราคาสูงถึง 3,000 ล้านบาท หลังจากนี้จะขยายผลติดตามจับกุมผู้ส่งสินค้ามาดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนสถิติการตรวจยึดยาเสพติดของกรมศุลกากร ตั้งแต่เดือน ต.ค.2564 จนถึงปัจจุบัน มีทั้งหมด 18 คดี รวมมูลค่ากว่า 1,100 ล้านบาท

อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวต่ออีกว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามมาตรา 244 มาตรา 166 และมาตรา 252 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 ประกอบพระราชบัญญัติยาเสพติด ให้โทษ พ.ศ.2522

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/AsHUzEeNcLY