คืบหน้ากรณีแม่บ้านวัย 54 ถูกชายอ้างเป็นตำรวจเรียกเงิน 3,000 บาท ข้อหาปั่นจักรยานผิดเวลาย่านพระประแดง สมุทรปราการ ล่าสุดรู้ตัวแล้ว ตอนนี้อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวมาดำเนินดี

ล่าสุด พันตำรวจเอก ประเสริฐสุข เฮงสุวรรณ์ ผู้กำกับ สภ.พระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวน เร่งไล่ล่าตัวคนร้ายที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วขี่มอเตอร์ไซด์ไปปาดหน้านาง สุภาพร เมาลี อายุ 54 ปี อาชีพเป็นแม่บ้าน ภายในซอยสุขสวัสดิ์ 66 ขณะกำลังปั่นจักรยานกลับบ้านพัก แล้วคนร้ายแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งผู้เสียหายว่า "ปั่นจักรยานผิดเวลา" ต้องเสียค่าปรับ ซึ่งมีการข่มขู่เอาเงินไป 3,000 บาท

ต่อมา ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายก่อเหตุ และเส้นทางที่หลบหนี จนได้ภาพจากกล้องวงจรปิดช่วงที่คนร้ายพาผู้เสียหายนั่งซ้อนท้ายไปในซอยสุขสวัสดิ์ 70 เพื่อกดเงินที่ตู้ ATM ธนาคารกสิกรไทย สาขาบางครุ บริเวณปากซอยสุขสวัสดิ์ 70

ตั้งแต่เส้นทางผู้เสียหายกำลังปั่นจักรยานสีส้มจากที่ทำงาน เพื่อกลับบ้านพักในซอยสุขสวัสดิ์ 52/2 ในพื้นที่เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ระยะทางเกือบ 5 กิโลเมตร โดยใช้เส้นทางซอยสุขสวัสดิ์ 66 ไปออกถนนสุขสวัสดิ์ พอมาถึงจุดเกิดเหตุคอสะพานข้ามคลอง ห่างจากที่ทำงานประมาณ 1 กิโลเมตร ผู้เสียหายถูกคนร้ายบังคับให้จอดรถจักรยานไว้ และพาซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ ยี่ห้อ Yamaha รุ่น Filano สีเขียวอ่อน ทะเบียน 5 กท 3453 กรุงเทพฯ

โดยลักษณะคนร้ายรูปร่างท้วม สูงประมาณ 165 -170 เซนติเมตร ผิวแดงดำ แต่งกายใส่เสื้อคอปกแขนสั้นสีน้ำเงิน สวมกางเกงยีนส์ขายาว รองเท้าผ้าใบสีขาว ใส่หมวกแก๊ปสีแดง และใส่แมสสีดำ เดินไปตามถนนในซอยสุขสวัสดิ์ 66 ทะลุซอยสุขสวัสดิ์ 70 เพื่อไปกดเงินที่ตู้ ATM ของธนาคารกสิกรไทย สาขาบางครุ พอผู้เสียหายกดเงินมาให้คนร้ายได้ขี่มอเตอร์ไซด์หลบหนีไป ทิ้งผู้เสียหายไว้ที่หน้าธนาคาร ซึ่งขณะนี้ตำรวจชุดสืบสวนรู้ตัวคนร้ายแล้ว ตอนนี้อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี

จากการสอบถาม แม่ค้าร้านขายของชำในที่เกิดเหตุ นางสาว ชุติมา มีสินจ่าย อายุ 46 ปี เล่าว่า ตนเห็นรถจักรยานมาจอดไว้ที่หน้าร้าน แต่ไม่พบเจ้าของตอนแรกไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไร พอมาดูข่าวถึงรู้ว่ามีแม่บ้านถูกคนร้ายอ้างว่าเป็นตำรวจและรีดไถ่เอาเงินไป คิดว่ามันไม่สมควรที่จะมาอ้างว่าเป็นตำรวจและทำกับประชาชน เพราะมันจะส่งผลเสียกับตำรวจ

ตนอยากฝากบอกอย่าไปเชื่อใครง่ายๆ และถ้าอยู่ในที่คนเยอะๆ ก็ให้เข้าไปหา และขอความช่วยเหลือ ทั้งนี้ขอให้ตำรวจรีบจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เพราะมันเป็นภัยต่อสังคม