สาวแอร์โฮสเตส พร้อมเพื่อน ร้องทนายรณณรงค์ ถูกสามีเพื่อนตั้งกล้องจิ๋วแอบถ่ายในห้องน้ำ หวั่นภาพหลุดในโซเชียล

น.ส.จอย (นามสมมติ) สาวแอร์โฮสเตส พร้อมเพื่อนผู้เสียหาย เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ นนทบุรี ระบุว่า ตนเองถูกแอบถ่ายขณะทำภารกิจส่วนตัวในห้องน้ำของบ้านเพื่อนสนิท โดยสามีเพื่อนเป็นคนแอบติดตั้งกล้องไว้ ขณะนี้มีเหยื่อผู้เสียหายทั้งหมด 11 คน เป็นหญิงสาว 7 ราย เด็กชาย 2 ราย เด็กหญิง 2 ราย ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.บางแก้ว สมุทรปราการแล้ว เพื่อให้ดำเนินคดีกับสามีของเพื่อนสนิทรายนี้แล้ว

น.ส.จอย เล่าว่า ตนเองและเพื่อนๆ สนิทกับ น.ส.เฟิร์น (สงวนชื่อและนามสกุล) มาตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือด้วยกัน ซึ่งตนและเพื่อนอีกหลายคนมักจะแวะเวียนไปมาหาสู่เฟิร์น ที่บ้าน ในต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เป็นประจำ ซึ่งเฟิร์น แต่งงานอยู่กินกับสามี ชื่อนายพีรพล อายุ 36 ปี และมีลูกชายวัย 8 เดือน นอกจากนี้ทั้งคู่ ยังเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ใกล้บ้านด้วย

ส่วนสาเหตุที่มารู้ว่าพวกตนถูกแอบถ่ายก็เป็นเพราะ ระยะหลังเฟิร์น มักมีปากเสียงกับสามี หลังจับได้ว่าสามีแอบคุยกับหญิงอื่น เฟิร์นจึงมีการเปิดเช็กมือถือของสามี ปรากฎว่าเฟิร์น เจอคลิปแอบถ่ายพวกตนอยู่ในมือถือสามี จึงโทรคุยกับเพื่อนๆ ในกลุ่มว่า ทำไมสามีตัวเองทำแบบนี้ได้ และไปเคลียร์เพื่อขอเลิก เพราะรับไม่ได้กับพฤติกรรมของสามี

เพื่อน 4 คน จึงนัดกันไปที่บ้านของเฟิร์น เพื่อขอคุยกับนายพีรพล ว่ามีคลิปแอบถ่ายของใครบ้าง แต่นายพีรพล ปฏิเสธไม่ยอมตอบ ตนจึงโทรตามเพื่อนมาสมทบอีกจนครบทุกคน และช่วยกันเค้นถามนายพีรพล จนยอมรับว่า "มีทุกคนที่อยู่ที่นี่เลย" พอได้ยินแบบนั้นแฟนของตนที่อยู่ด้วยโกรธมาก กระโดดฟันศอกนายพีรพล อย่างแรง จากนั้นก็พากันไปแจ้งความ เมื่อวันที่ 2 พ.ย.

จากนั้นทางตำรวจได้ยึดมือถือ 3 เครื่อง โน้ตบุ๊ค 1 เครื่อง กล้องถ่ายรูป 2 ตัว แต่เมื่อตรวจสอบปรากฎว่าถูกลบไปแล้ว ทั้งนี้ตำรวจเชื่อว่าจากมุมกล้องน่าจะเป็นกล้องขนาดจิ๋วที่ติดตั้งไว้ในห้องน้ำเพื่อแอบถ่ายพวกตน นอกจากนี้ยังมีหลักฐานคำสั่งซื้อกล้องจิ๋วในช้อปปิ้งออนไลน์ด้วย

ทางผู้เสียหาย บอกด้วยว่า หลังเข้าแจ้งความทางฝ่ายนายพีรพล ได้เข้ามาขอไกล่เกลี่ย แต่บรรดาเพื่อนๆ ไม่ยอม เพราะไม่รู้ว่าคลิปหลุดไปถึงไหนแล้วบ้าง และเขาก็ทำมานานแล้วด้วย หากวันหนึ่งคลิปหลุดไปมันจะกระทบกับงานที่ทำอยู่ ทำให้เป็นกังวลมากกับเรื่องนี้

ด้าน ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า ตนได้คุยกับพนักงานสอบสวนมีการขอให้ส่งโทรศัพท์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องไปพิสูจน์หลักฐานที่ ปอท. ไม่ใช่ไปที่ พฐ.จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งในวันศุกร์นี้ ตนจะพาผู้เสียหายทั้ง 11 คน เข้าร้องเรียนกับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เนื่องจากคดีมีความล่าช้า และอยากให้ทำคดีให้กระจ่างโดยเร็วที่สุด เพราะถือเป็นเรื่องอันตรายต่อผู้หญิงอย่างมาก เบื้องต้นพนักงานสอบสวนไม่ได้อายัดของกลางในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน มีเพียงโทรศัพท์มือถือและโน้ตบุ๊ค ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์

สำหรับข้อหาที่เข้าข่ายความผิด คือ กระทำอนาจาร , สร้างความเดือดร้อนรำคาญ ถ้ามีเด็กอยู่ในค ลิปด้วยก็จะเป็นเรื่องของการครอบครองสื่อลามกอนาจารต่อเด็ก ไม่สามารถยอมความได้

ชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/zx-iax7Kdr0