จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Phitchayawe Valencia ได้โพสต์วิดีโอคลิปจากกล้องวงจรปิด เป็นเป็นคุณป้าท่านหนึ่ง ยืนอยู่ริมถนน ในลักษณะกำลังโบกรถแท๊กซี่ แต่จังหวะนั้นพบว่า มีแท็กซี่สีเขียวเหลืองไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ที่ขับมาจากเลนขวาตัดหน้ารถจักรยานยนต์ที่ขับอยู่ในเลนซ้าย

ทำให้รถจักรยานยนต์เสียหลัก ชนกับฟุตบาธ ล้มคว่ำ ก่อนที่รถจะไถลไปชน คุณป้าล้มลงได้รับบาดเจ็บสาหัส มีเลือดออกปาก ออกจมูก และหมดสติ ส่วนรถแท๊กซี่คันก่อเหตุก็หลบหนีไป เหตุเกิดที่ปากซอยเอกชัย 22 ถนนเอกชัย แขวงจอมทอง เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 05.06 น. ของวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา

โดยพบว่าหลังเกิดเหตุ คุณป้าที่ได้รับบาดเจ็บคือ นางสาววันทนีย์ อุไรวรรณ์ อายุ 68 ปี หรือ ยายพร ได้รับบาดเจ็บสาหัส กะโหลกร้าว มีเลือดออกในสมอง จมูกหัก นิ้วหัก รักษาตัวในห้องไอซียู รพ.บางปะกอก โดยขณะนี้อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ปัญหาคือ ไม่มีผู้รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

โดยหากดูจากคลิปจะสังเกตุว่า รถที่ชนคุณป้า คือรถจักรยานยนต์ แต่กรณีนี้ รถจักรยานยนต์ ระบุว่า ที่ต้องชนคุณป้า เพราะถูกรถแท๊กซี่เบียดเข้ามาทำให้เสียหลัก

ด้านพันตำรวจเอก วิศิษฐ์ สังขนันท์ ผกก.สน.บางขุนเทียน ระบุว่า จาการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ไล่เรียงเหตุการณ์แล้ว เห็นได้ชัดว่า รถแท็กซี่สีเขียวเหลืองกระทำความผิด โดยขับขี่มาในเลนกลาง แล้วเห็นว่า คุณยายกำลังโบกรถทำให้รถแท๊กซี่นั้น ขับปากเข้าเลนซ้ายทันที โดยไม่ทันดูว่า เลนซ้ายนั้น มีรถจักรยานยนต์ขับมา จึงเป็นเหตุให้เบียดรถจักรยานยนต์จนเสียหลักและพุ่งชนฟุตบาธ ก่อนจะชนคุณยาย

ดังนั้นเรื่องนี้รถแท็กซี่ผิดชัดเจน ซึ่งได้ให้ฝ่ายสืบสวน แกะรอยตรวจกล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆ เพื่อดูทะเบียนรถและติดตามตัวคนขับแท๊กซี่รายนี้มาดำเนินคดี โดยเข้าข่ายความผิด ขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และชนแล้วหนี ซึ่งอยากฝากบอกแท๊กซี่คันที่ก่อเหตุ หากดูข่าวอยู่ก็ให้ออกมารับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น

ทางด้าน คู่กรณีของแท๊กซี่ คือ รถจักรยานยนต์คันที่เกิดเหตุพุ่งชนฟุตบาธ และชนคุณยาย เมื่อวานนี้ก็เข้าให้ปากคำกับตำรวจ โดยนายทัชชัย สุทาบุญ อายุ 41 ปี อาชีพขับวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง เปิดใจว่า ตนเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนยายพร วัย 68 ปี

ขณะเกิดเหตุขณะที่ตนเองขับรถ เพื่อเดินทางกลับบ้านพักที่ซอยเอกชัย 8 ซึ่งระหว่างทางได้ขับชิดซ้ายมาตลอด แต่ได้มีแท็กซี่ขับปาดหน้ารถตนเองอย่างกระทันหัน ช่วงซอยเอกชัย 22 จึงทำให้ตนเองตัดสินใจหักหลบ ก่อนจะเสียหลักชนเข้ากับฟุตบาททางซ้ายสุด ทำให้รถและตนเองลื่นไถลไปเฉี่ยวชนยายพร พร้อมระบุว่า ขณะขับมาบริเวณดังกล่าวค่อยข้างมืดไม่สามารถมองเห็นว่ามีอะไรมากีดขวาง หลังลุกขึ้นมาก็ได้ มีคนเข้ามาช่วย ตอนนั้นตนตั้งสติ และรีบขับรถออกไปตามแท๊กซี่ แต่ก็ไม่ทัน จึงขอให้พลเมืองดีเฝ้าอาการและติดต่อมูลนิธินำตัวไปรักษา ก่อนจะกลับมาที่เกิดเหตุ เห็นสภาพคุณยายนอนคว่ำหน้า มีเลือดออกปากออกจมูกจึงนำส่งโรงพยาบาล

หลังเกิดเหตุ ตนก็ใช้สิทธิใช้พรบ.รถจักรยานยนต์ รักษายายพร ทั้งๆ ที่ตนไม่ผิด แต่ก็ด้วยมนุษยธรรม คุณยายน่าสงสารมาก บาดเจ็บสาหัส แต่ก็ไม่มีใครติดต่อญาติหรือลูกหลานได้ ตอนนี้รู้สึกกังวลและกลัวที่จะต้องถูกดำเนินคดีทั้งๆ ที่ไม่ใช่ต้นเหตุของการเกิดอุบัติเหตุนี้ แม้ส่วนตัวไม่ได้บาดเจ็บมากนแต่เป็นห่วงยายพรที่มีอาการบาดเจ็บสาหัส อยากขอร้องให้แท๊กซี่ที่ก่อเหตุออกมารับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น

ในส่วนของคุณยายพรนั้น ชีวิตน่าสงสาร เพราะใช้ชีวิตอยู่คนเดียวมานานกว่า 20 ปี ทีมข่าวลงพื้นที่ในซอยเอกชัย 22 ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ ยายพรอาศัยในห้องเช่าเล็กๆ ในซอยนี้ ไม่มีญาติหรือลูกหลานดูแล จะมีเพื่อนบ้านในซอยช่วยดุแลกันเองมาตลอด

คุณทองคำ ณ มหาชัย หรือ ป้าป้อม เจ้าของร้านชำในซอยนี้ เล่าว่า เป็นคนดูแลยายพรมาตลอด ยายพรเป็นคนสู้ชีวิต แม้ว่าจะอัมพฤกษ์ มีอาการปากเบี้ยวและเดินไม่ปกติ ก้าวขาได้เล็กน้อย ทุกๆ วัน จะค่อยๆ เดินออกไปปากซอย ไปขอเงินจากผู้ใจบุญที่สงสาร บางวันก็ได้เงินได้อาหารน้ำดื่ม ตอนเย็นแกก็กลับมานอน วันเกิดเหตุก็เช่นกัน ยายพรเดินออกไปเรียกรถแท๊กซี่ เพื่อขอให้พาข้ามฝั่งไปซอยตรงข้ามคือซอยเอกชัย 23 เพราะแกเดินไม่ไหว แต่ก็มาเกิดอุบัติเหตุ อีกทั้งยังหาตัวผู้ก่อเหตุไม่ได้ ตอนนี้อาการของยายพร หมอระบุว่า มีเลือดคั่งในสมอง กะโหลกร้าว ดั้งจมูกหัก นิ้วหัก และค่ารักษาพยาบาลเกินวงเงินของพรบ.รถ จยย.ที่เข้ามารับผิดชอบแล้ว ก็ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนไปจ่ายทางรพ.อยากขอให้รถแท๊กซี่ที่ก่อเหตุออกมารับผิดชอบ

แม้ว่าสภาพร่างกาย ยายพรไม่พร้อม แต่ยายก็พยายามหาเงินได้ทุกวันก็จะมาจ่ายค่าเช่าบ้าน จ่ายกับเจ้าของวันละ 40 บาท ไม่เคยค้างสักบาท เจ้าของบ้านเช่าไม่อยากเก็บเงิน แต่ยายพรก็ไม่ยอม ขอจ่าย เวลาเจ็บป่วย ไม่สบาย ก็มีแต่เพื่อนบ้านคอยดูแลกัน หลังจากนี้ ไม่รู้ว่ายายพรจะกลับมาปกติหรือไม่ พวกเพื่อนบ้านก็จะช่วยกันดูแลต่อไป และขอให้ลูกชายคนเดียวของยาย มาดูแลแม่บ้าง

สำหรับถนนเอกชัย จุดที่เกิดเหตุ พบว่า เป็นทางตรง และมีซอยย่อยจำนวนมาก ในช่วงเช้ามืดหรือกลางคืน รถส่วนใหญ่ใช้ความเร็วสูง ตำรวจจะไปแกะรอบตรวจสอบ กล้องวงจรปิดตามเส้นที่และแยกไฟแดงต่างๆ เพื่อตามหารถแท๊กซี่คันก่อเหตุมารับผิดชอบ และดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ หากประชาชนรายใดที่ใช้รถใช้ถนนช่วงเวลาดังกล่าว หากพบเบาะแสให้แจ้งตำรวจสน.บางขุนเทียน

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/HavAHLBawc0