เมื่อวานนี้ (29 พ.ย.) เกิดเหตุไฟไหม้ ซึ่งหลายๆคนเห็นภาพก็จะตกใจเพราะ สภาพกลุ่มควันขนาดใหญ่พวยพุ่งเป็นสีดำ พร้อมกับเปลวไฟที่ลุกไหม้ และมีเสียงระเบิดดังเป็นระยะ

จากการตรวจสอบ พบว่า ไฟไหม้โกดังเก็บน้ำมันเครื่อง ของบริษัท ประภากรออยล์ จำกัด ซึ่งอยู่หลังตลาดธันยา ถนนเพชรเกษม ตำบลอ้อมใหญ่ จังหวัดนครปฐม

เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 12.20 น.ไฟได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ระดมรถดับเพลิงและอุปกรณ์เข้าดับเพลิง -เหตุการณ์ช่วงนี้เป็นไปอย่างทุลักทุเล จากนั้นพบว่า แสงไฟจากโกดังแห่งนี้ ลุกลาม ไปยังบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ห่างออกไป 200 เมตร ลักษณะเป็นหมู่บ้านทาวเฮาส์และอาคารพาณิชย์ ได้รับความเสียหายนับ 10 หลังคาเรือน

ต่อมาเจ้าหน้าดับเพลิงขอสนับสนุนโฟมและสารเคมีช่วยดับไฟ เพราะภายในโกดังเก็บน้ำมันเครื่อง น้ำอย่างเดียวดับไม่ได้ ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง ก็สามารถควบคุมเพลิงให้สงบได้ พบว่ากลุ่มควันสีขาว ลอยฟุ้งกระจายพร้อมกลิ่นสารเคมี ส่วนน้ำในคลองก็เป็นคราบน้ำมันเครื่องไหลลงคลองและกระจายเต็มพื้นผิวถนนบริเวณที่เกิดไฟไหม้

จากการสำรวจพบว่า โกดังแห่งนี้มีเนื้อที่กว่า 2 งานของโรงงาน ซึ่งเสียหาย 100% สภาพขอถังน้ำมัน ถูกไฟไหม้เสียหาย กระจัดกระจายทั่วโกดัง บริเวณตรงกลางของโกดัง ซึ่งมีความร้อน กลุ่มควันก็เปลี่ยนเป็นสีขาว เจ้าหน้าที่ ยังคงฉีดน้ำสกัดโดยรอบ เพื่อลดอุณหภูมิความร้อน ไม่ให้เพลิงปะทุขึ้นมาอีกครั้ง

โกดังที่เกิดเหตุ มีถังบรรจุน้ำมันเครื่องในถังกักเก็บรวมประมาณเกือบ 1 แสนลิตร และที่ผ่านมาเมื่อเดือนเมษายน 2564 เคยเกิดเพลิงไหม้โรงงานที่ตั้งอยู่ห่างไปประมาณ 200 เมตร มาแล้วครั้งหนึ่ง และตอนนี้ ยังไม่สามารถระบุสาเหตุ ของเพลิงไหม้ครั้งนี้ได้

จากเหตุการณ์นี้ มีรายงานผู้บาดเจ็บ 1 ราย ที่วิ่งจากจุดเกิดเหตุ และถูกกระจกบาดแขน ได้นำตัวส่งไปโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว

ผลกระทบของไฟไหม้ครั้งนี้ พบว่า ความแรงของเปลวไฟและแรงลม ทำให้ไฟลุกลามไหม้บ้านเรือนประชาชน ที่หมู่บ้านนิสาชล เป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ มีทั้งแบบอาคารพาณิชย์และทาวเฮาส์ พบว่า บ้านที่ติดกับริมคลอง ห่างจากโรงงานเพียง 200 เมตร ได้รับความเสียหายนับ 10 หลังคาเรือน

ทีมข่าวสำรวจพื้นที่ พบว่าบ้านของคุณวิธี ว่องประเสริฐ์ ซึ่งได้รับความเสียหายบริเวณห้องครัว และตัวบ้านที่ติดกับริมคลอง สภาพคือหลังคาถล่ม ข้าวของพังเสียหาย เปลวไฟยังลุกไหม้เศษผ้าและพลาสติก พังเสียหาย กระจกบ้านแตกกระจาย

คุณลุงวิธีบอกว่า ตอนที่ไฟไหม้ มีแม่บ้านอยู่คนเดียวที่ชั้น 3 ตอนนั้นตอนขับรถจยย.กำลังจะกลับบ้าน เห็นที่โกดังมีพนักงานอยู่ 4-5 จากนั้นก็เกิดแสงเพลิงขึ้นและทุกคนวิ่งหนีกระเจิง -ตนก็เรียกแม่บ้านให้ออกจากบ้านด่วน ตอนนั้นโชคดีที่วิ่งหนีตายหลบหนีออกมาทัน เพียงไม่กี่นาที ก็ได้ยินเสียงระเบิด และเปลวไฟลุกเหมือนทะเลเพลิง และเสียงหลังคาพัง กระจกบ้านแตก ตกใจมากมันน่ากลัวและอันตรายมาก

ที่ผ่านมาโรงงานนี้ตอนที่ไหม้ครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายน ตอนนั้นคนในหมู่บ้านก็กลัวและระแวงกันกลัวไฟไหม้จะลามมาที่บ้าน แต่หลังจากนั้นโรงงานก็ขนย้ายถังน้ำมันเครื่องมาไว้ที่โกดังนี้เพิ่มขึ้น แต่ก่อนก็เก็บถังน้ำมันเครื่องไว้แต่ไม่มากขนาดนี้

ชาวบ้านก็ผวากลัวจะไฟไหม้ ทางกรรมการหมู่บ้านเคยทำหนังสือแจ้งทางอำเภอ แล้ว แต่ก็ไม่รู้ทำไมถึงทำได้ หมู่บ้านนี้สร้างมาก่อนที่โรงงานจะเข้ามา ก็ไม่รู้เพราะอะไรทำไมสร้างโรงงานเก็บวัตถุอันตรายติดกับหมู่บ้านได้ พอเกิดเหตุแบบนี้ ใครจะรับผิดชอบ ยังเคราะห์ ดีที่ไม่มีใครบาดเจ็บ อยากขอให้โรงงานรับผิดชอบและเห็นแก่ชาวบ้าน ย้ายออกนอกพื้นที่

นอกจากนี้ก็ยังมีบ้านของคุณกัญญนันท์ ธนะพีนะไพศาล หนึ่งในผู้เสียหายเป็นบ้านทาวเฮาส์ พบว่า สภาพบ้านด้านข้างที่ใกล้กับโกดัง พังเสียหายต้นไม้และทรัพย์สินถูกไฟไหม้ ภายในตัวบ้าน กระจกแตก และมีควันเกิดขึ้นที่ใต้ฝาเพดาน เพราะเกิดจากไอความร้อนและเปลวไฟที่รุนแรง เจ้าหน้าดับเพลิงเข้าฉีดน้ำและควบคุมพื้นที่

คุณกัญญนันท์ บอกว่า ขณะเกิดเหตุพ่ออยู่ในบ้านคนเดียว ได้ยินเสียงกระจกแตก และความร้อนจากแสงไฟพัดมาในบ้านจึงตะโกนบอกเพื่อบ้านว่าไฟไหม้ และพยายามออกนอกบ้าน เศษของถังน้ำมันเครื่องปลิวกระจายมาตกที่หน้าบ้าน

และพบว่าเพื่อนบ้านใกล้เคียงกันก็ได้รับความเสียหายเหมือนกันแต่ไม่มากเท่าบ้านตน จากนี้ไปก็ต้องอยู่อย่างหวาดผวา เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกเมื่อไหร่ หากโกดังนี้ยังอยู่จุดนี้ก็เป็นอันตรายกับชาวบ้าน

ขณะที่นายนพรุจ อึ้งประภากร กรรมการผู้จัดการ บ.ประภากรออยล์ เปิดเผยว่า โกดังที่เกิดเหตุมีเนื้อที่ประมาณ 2 งาน ตอนเกิดเหตุมีคนงาน 1 คนที่ดูแลโกดัง ได้วิ่งมาบอก จึงรีบมาที่เกิดเหตุ ก็เห็นลูกไฟพวยพุ่งขึ้นมาแล้ว จากที่จะมาช่วยดับเพลิงก็ไม่ทันแล้ว

ซึ่งจุดนี้ใช้เป็นพื้นที่เก็บน้ำมันเครื่องชั่วคราว เพื่อเตรียมที่จะย้ายไปยังโรงงานใหม่ไปที่กำลังก่อสร้าง หลังจากที่เคยถูกไฟไหม้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ไฟไหม้ครั้งนี้เรียกว่าไหม้ทั้งหมด มูลค่าความเสียหายกว่า40 ล้าน

และขอยืนยันว่า ไม่ใช่การวางเพลิงเอาประกัน เพราะโรงงาน ก็อยู่ใกล้ๆกัน โกดังนี้ เป็นที่เก็บของชั่วคราว เหตุที่เกิดขึ้นก็ยังไม่ทราบสาเหตุ แต่ไฟไหม้ครั้งที่แล้ว เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร

ส่วนกรณีชาวบ้านตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมถึงนำถังน้ำมันเครื่องจำนวนมากมาวางบริเวณนี้ได้ นายนพรุจ ระบุว่า ทราบดีว่าใกล้จุดชุมชน และได้แจ้งกับทางเทศบาลและอำเภอแล้ว เป็นการเก็บของชั่วคราวเท่านั้นก็อยากขอความเห็นใจเช่นกัน เพราะพึ่งถูกไฟไหม้ไม่มีที่เก็บของ และรอโกดังที่ใหม่สร้างเสร็จ

ขอโทษทุกคนทีได้รับผลกระทบ ตนก็เสียใจ และไม่อยากให้เกิดเหตุ และพร้อมรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด รวมทั้งการดูแลสิ่งแวดล้อมรอบๆชุมชน

ขณะที่ปลัดเทศบาลอ้อมใหญ่ ก็ได้เข้ามาสำรวจความเสียหายเบื้องต้น พร้อมประสานเพื่อจัดหาแหล่งที่พักให้กับชาวบ้านที่รับผลกระทบ รวมถึงมีการย้ายผู้สูงอายุ และผู้ป่วยไปตามโรงพยาบาลต่างๆแล้ว

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/6LSXfnt-E1E