พี่ชายร้อง หลังน้องชายถูกนายจ้างชาวจีน กล่าวหาฆ่าคนตาย หลังขัดขืนไม่หลอกคนไทยมาทำงานที่กรุงพนมเปญ กัมพูชา

จากกรณีชายรายหนึ่งได้ส่งคลิปวีดีโอเหตุการณ์เกิดขึ้นในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ที่กรุงพนมเปญ กัมพูชา โดยในภาพกล้องวงจรปิดจะเป็นภาพขณะที่เจ้าหน้าที่ของกัมพูชาได้เข้ามาระงับเหตุ มีการทำร้ายร่างกาย ทำร้ายผู้หญิงอีกด้วย ในคลิปจะเห็นเพื่อนของน้องชายคนส่งคลิป ถูกล๊อกคอจากด้านหลังก่อนที่จะมีเรื่องกัน แต่ขณะนั้นน้องชายของตนออกไปสูบบุหรี่ด้านนอก

ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ได้พูดคุยกับ นายชัย พี่ชายของคนร้อง บอกว่า เมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา น้องชายของตนถูกหลอกไปทำงานที่ประเทศกัมพูชา โดยนายจ้างอ้างว่าทำเว็บพนันออนไลน์และโปรโมทสินค้ามีรายได้ 20,000 -30,000 บาท ต่อเดือน

หลังจากไปถึงที่กัมพูชา นายจ้างให้อยู่ในห้องเช่าพอถึงเวลางานจะมีรถมารับไปที่บริษัทแห่งหนึ่ง พอไปถึงบริษัทก็มีแก๊งชาวจีนซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมคนไทย คอยสั่งให้ทำงานโดยการใช้ คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ เปิดเว็บเงินกู้หลอกคนไทยให้เข้ามาใช้งาน แต่ละห้องอยู่กันร่วม 30 คน รวมแล้วมากกว่า 99 คน โดยสั่งให้ 1 ห้อง 30 คน ต้องทำยอดให้ได้ 4 แสนบาท

หากทำไม่ได้ตามเป้าก็จะไม่ได้รับเงินค่าตอบแทน แรกๆกดดันเพราะนายจ้างให้ทำงาน 12 ชั่วโมง ต่อวัน หากทำยอดไม่ถึงจะปรับเวลาทำงานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยการบังคับให้ทำงานมากถึง 20 ชั่วโมงต่อวัน ตั้งแต่เช้าจนถึงเกือบเที่ยงคืน ตี 1 หรือตี 2 ไม่ให้ออกไปไหน ไม่เห็นโลกภายนอกเลย เห็นแค่ท้องฟ้ากับกำแพงสูง ได้นอนประมาณ 4-5 ชม. ต่อวัน

จึงทำให้น้องชายและเพื่อนน้องชายหลบหนีออกมา หลังจากหลบหนีออกมา สุดท้ายก็ถูกตามจับได้ และโดนทำร้ายร่างกาย และได้ตกลงกับนายจ้างจะไม่เปิดเผยข้อมูลการทำงานกับใคร จึงถูกปล่อยตัวมา

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน น้องชายกับเพื่อนได้นั่งกินข้าวอยู่ที่ตลาดแห่งหนึ่งในพนมเปญ นายจ้างเห็นน้องชายกับเพื่อน จึงบุกเข้ามาทำร้ายร่างกาย เนื่องจากที่น้องชายและเพื่อนไม่ยอมทำงานให้ และกลัวน้องชายและเพื่อนจะเอาเรื่องราวกระบวนการทำงานไปเล่าให้คนอื่นฟัง

และในวันเดียวกันมีการเกิดเหตุ ยิงกันบริเวณร้านใกล้เคียง และมี สห.ที่กัมพูชา ถูกยิงเสียชีวิต กลุ่มนายจ้างชาวจีนจึงพยายามโยนความผิดให้น้องชายกับเพื่อน ทั้งๆ ที่น้องชายกับเพื่อนไม่มีใครมีอาวุธปืน

ซึ่งอยากให้สถานทูตไทยติดต่อเข้าช่วยเหลือและตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะเกรงว่าน้องชายและเพื่อนจะไม่ปลอดภัย วอนขอความยุติธรรม

ด้านนายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว ยืนยันว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศพร้อมให้ความช่วยเหลือย่างเต็มที่ โดยขอให้ญาติของผู้เสียหาย ติดต่อเข้าให้ข้อมูลทั้งหมด กับ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อที่กระทรวงการต่างประเทศจะได้ประสานงานกับสถานเอกอัคราชทูต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าให้ความช่วยเหลือโดยด่วน

ซึ่ง กรมการกงสุล มีหน่วยงานที่เป็นกองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ คอยรับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง และที่ผ่านมาก็มีการช่วยเหลือคนไทยที่ถูกหลอกไปทำงานในต่างประเทศ อยู่อย่างต่อเนื่อง