บรรยากาศงานลอยกระทงที่ จ.ตาก จัดงานลอยกระทงสายไหลประทีป 1,000 ดวง เป็นประเพณีที่ชาวเมืองตากภาคภูมิใจ และได้สืบทอดภูมิปัญญากันมาเป็นเวลาช้านาน มีภาพกระทงกะลาลอยไปตามสายแม่น้ำปิง แสงไฟระยิบระยับทอดยาวไปตามลำน้ำอย่างสวยงาม

ส่วนที่อยุธยา ชาวบ้านที่ตำบลสามเรือน อำเภอบางปะอิน ใช้ต้นตาลปัตทำกระทง โดยต้นตาลปัตก็คือต้นผักตบชวานั่นเอง ซึ่งเป็นพืชที่ลอยน้ำหาง่าย พบได้ทั่วไปในวิถีชีวิตชาวบ้าน

ที่ จ.เชียงใหม่ นักท่องเที่ยวและชาวเชียงใหม่ ออกมาลอยกระทงในแม่น้ำปิง หน้าวัดเกตการามในตัวเมืองเชียงใหม่ กันอย่างคึกคัก โดยกระทงที่พ่อค้าแม่ค้าประดิษฐ์ จากวัสดุธรรมชาติ ใบตองและหยวกกล้วย ขายชิ้นละ 20 – 30 บาท รวมทั้งกระทงสายที่ประดิษฐ์จากใบตอง ใช้ผางประทีปวางตรงกลาง นำไปจุดลอยน้ำเป็นกระทงสาย ในแม่น้ำปิงอย่างสวยงาม

ขณะที่มีคำเตือนประชาชนช่วงวันลอยกระทง ระมัดระวังอุบัติเหตุการจุดพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ จากข้อมูลระบบเฝ้าระวังการบาดเจ็บของกรมควบคุมโรค ช่วงวันลอยกระทง 3 วัน (ก่อน ระหว่าง และหลังวันลอยกระทง) ในปี 2561-2563 พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บรุนแรงจากพลุ ประทัด และดอกไม้ไฟ จำนวน 112 ราย

กลุ่มอายุที่พบมากสุด คือ 15-29 ปี (ร้อยละ 32.1) รองลงมาเป็นกลุ่มเด็กอายุ 1-14 ปี (ร้อยละ 25.9) โดยอวัยวะที่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงมากที่สุด คือ ข้อมือและมือ ร้อยละ 36.6 รองลงมา คือ ศีรษะ ร้อยละ 17 ส่วนใหญ่มีแผลเปิดที่ศีรษะ ร้อยละ 42.1 และได้รับบาดเจ็บที่ตา ร้อยละ 26.3

สำหรับคำแนะนำป้องกันการจมน้ำช่วงลอยกระทง สำหรับประชาชน มีดังนี้

1.ลอยกระทงอย่างปลอดภัย ให้ยึดหลัก 4 อ.

-อย่ายืนใกล้ขอบบ่อ

-อย่าลงไปเก็บกระทง/เงินในกระทง

-อย่าก้มไปลอยกระทง

-อย่าดื่มสุรา

2.อย่าปล่อยให้เด็กลอยกระทงเพียงลำพัง แม้แต่ในกะละมัง ถัง โอ่ง เพราะอาจพลัดตกน้ำเสียชีวิตได้

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/0LeKS6DU4XY