ตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 บุกทลายขบวนการลำเลียงยาเสพติด จากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลงสู่ภาคใต้ ที่ใช้วิธีการที่แยบยลขึ้น ด้วยการดัดแปลงรถเก๋งเป็นช่องลับ หากผ่านด่านตรวจจะไม่พบความผิดปกติ

โดยล่าสุดตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 จับกุมเครือข่ายที่ใช้รถดัดแปลงลำเบียงยาเสพติดได้ที่บ้านเช่าย่านพัฒนาการและรามคำแหง สามารถยึดรถยนต์ดัดแปลงได้รวม 10 คัน ไปติดตามรายงานจากคุณสุมนา แจวเจริญวงศ์

การบุกเข้าจับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด เกิดขึ้นที่บริเวณบ้านเช่า ย่าน ถ.พัฒนาการ เขตประเวศ หลังจากตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือ 191 ใช้เวลาแกะรอยขบวนการมาเป็นเวลากว่า 1 เดือน การเข้าตรวจค้น สามารถควบคุมตัว นายลัทธิ อายุ 42ปี และนายอัจฉริยะ อายุ40ปี อยู่ภายในบ้าน ค้นห้องพักพบปืนและกระสุนปืนในห้องพัก ส่วนรอบบริเวณบ้านเจ้าหน้าที่พบของกลางเป็นยาเสพติด อยู่ภายในกระเป๋าเดินทาง สีเทา ที่วางไว้หลังบ้าน บรรจุยาบ้า เกือบ 2 แสนเม็ด

ประเด็นน่าสงสัย คือรถเก๋งที่ผู้ต้องหากำลังจะขับออกจากบ้านพักอย่างมีพิรุธ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นช่วงแรกไม่พบสิ่งผิดปกติ แต่เมื่อตรวจค้นอย่างละเอียดพบ รอยดัดแปลง ที่ท้ายกระโปรงรถ เป็นที่ซุกซ่อนยาเสพติด พบไอซ์บรรจุในถุงชา จำนวน 100ถุง น้ำหนัก 100 กิโลกรัม ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้การว่ายังมีไอซ์ อีก 200 กิโลกรัม โดยนำไปซุกซ่อนไว้ในรถดัดแปลง จอดไว้ที่ลานจอดรถ ในซ.รามคำแหง 24 เขตสวนหลวง

เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นก็พบ รถเก๋งจำนวน 2 คัน พบไอซ์ซุกซ่อนไว้ที่ท้ายกระโปรงรถดัดแปลงเป็นที่ซุกซ่อนยาเสพติด คันละ 100 กิโลกรัม รวมทั้งหมด 300 กิโลกรัม ผู้ต้องหารับสารภาพว่ารถยาเสพติดทั้งหมดมาจากชายแดนด้านจังหวัดหนองคาย โดยมีชายไม่ทราบชื่อ ขับรถ มาส่งให้ที่กรุงเทพฯ ทั้งสองคนมีหน้าที่ในการนำยาเสพติดมาซุกซ่อนไว้ท้ายกระโปรงรถ เพื่อนำส่งลงไปภาคใต้

นอกจากนี้ยังตำรวจยังได้ยึดรถเก๋ง อีก 7 คันไปตรวจสอบ พบความผิดปกติที่ท้ายกระโปรงรถถูกดัดแปลงในลักษณะเดียวกันทุกคัน จึงคาดว่าขบวนการนี้มีรถทั้งหมด 10 คันที่ดัดแปลงไว้เพื่อลำเลียงยาเสพติดลงไปภาคใต้ เพราะสามารถตบตาเจ้าหน้าที่ในการผ่านด่านตรวจได้

พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น.เผยว่า การเข้าจับกุมครั้งนี้ ตำรวจ 191 ได้รับการประสานข้อมูลจากตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี แจ้งว่ามีกลุ่มบุคคลต้องสงสัยซึ่งมีพฤติกรรมลำเลียงยาเสพติดไปส่งยังภาคใต้ จึงได้วางแผนติดตามผู้เกี่ยวข้อง จนพบแหล่งซุกซ่อนยา โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลรถยนต์ที่ดัดแปลงทั้งหมด ซึ่งพบว่าเป็นรถที่ซื้อต่อมาจากรถหลุดจำนำ และตรวจสอบเส้นทางว่ามีการนำไปใช้ลำเลียงยาเสพติดมาแล้วกี่ครั้ง