ตำรวจนครศรีธรรมราช บุกรวบลูกทรพีวัย 60 สุดเหี้ยมคว้าปืนยิงรัวใส่พ่อชราวัย 88 ปี ดับคาบ้านที่สงขลา หลังพบขี่มอเตอร์ไซด์หนีข้ามจังหวัดมากบดานที่รีสอร์ท ก่อนจะคุมตัวมาแถลง พร้อมเผยฉนวนเหตุมีปากเสียงกับพ่อที่มาเปิดประตูบ้านให้ช้า

เมื่อคืนนี้ (16 พ.ย.) ตอนประมาณ 3 ทุ่ม ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช สนธิกำลังร่วมกับตำรวจสืบสวน สภ.สิชล พร้อมอาวุธครบมือ เข้าปิดล้อมรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.สำเภา อ.สิชล พบมอเตอร์ไซด์ของผู้ต้องหาจอดอยู่หน้ารีสอร์ท จึงกระจายกำลังปิดล้อม และบุกจับกุมด้วยความระมัดระวัง เพราะผู้ต้องหามีปืนที่ใช้ยิงพ่อเสียชีวิต

โดยขณะบุกจับกุม นายเสรีย์ นอนอยู่ในห้อง ไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นตัวเดียวอยู่ในสภาพอิดโรย ตวรจค้นในกระเป๋าพบเสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุ ส่วนปืนซ่อนไว้ใต้เบาะมอเตอร์ไซด์

สอบสวนผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า หลังก่อเหตุแล้วได้ขี่รถหนีออกจากบ้านในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ข้ามจังหวัดมากบดานที่บ้านเช่าในอำเภอสิชล และตั้งใจว่ารุ่งเช้าจะหนีต่อ แต่สุดท้ายไม่รอดถูกจับกุมได้เสียก่อน เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนจะส่งตัวให้ ตำรวจ สภ.หาดใหญ่ เจ้าของคดีดำเนินการ

ย้อนคดีสะเทือนขวัญนี้ เกิดขึ้นช่วงเย็นวันที่ 15 พ.ย. นายเสรีย์ ขับขี่มอเตอร์ไซด์มาจอดหน้าบ้าน และดูเหมือนจะเข้าบ้านไม่ได้ ก่อนจะตะโกนเรียกคนที่อยู่ในบ้านให้เปิดประตู ระหว่างนั้น นายเสรีย์ ได้เดินวนเวียนอยู่หน้าประตูรั้ว ส่วนนายพิศ อายุ 88 ปี ผู้เป็นพ่อนั่งอยู่ภายในบ้าน และเหมือนกับทั้งคู่มีปากเสียงโต้เถียงกันอยู่หน้าบ้าน

จากนั้น นายเสรีย์ ได้ไปยืนที่ประตูรั้ว และชักอาวุธปืนออกกระหน่ำยิงใส่ไม่ยั้งประมาณ 8 นัด แล้วยังเดินไปใช้เท้าเขี่ยมีดพร้าที่ตกอยู่ข้างศพ ซึ่งพ่อน่าจะถืออยู่ในมือ และหยิบมีดพร้าเดินหายเข้าไปในบ้าน ก่อนจะเอาผ้ามาปิดศพเอาไว้ สักพักจึงเดินออกจากบ้านปิดประตูเหล็ก และขับรถหนีไป พร้อมกับอาวุธปืน

ต่อมา ผู้กำกับการ สภ.หาดใหญ่ พันตำรวจเอก อัครวุฒ ธานีรัตน์ สั่งการให้พนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ยื่นคำร้องต่อศาลขอหมายจับ นายเสรีย์ อายุ 60 ปี ในเบื้องต้นข้อกล่าวหา ฆ่าบุพการี, มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, และพกพาอาวุธปืนโดยไม่มีเหตุสมควร พร้อมกับให้ชุดสืบสวนเร่งไล่ล่า จนสามารถจับกุมตัวนายเสรีย์ได้ในที่สุด

และเมื่อเช้านี้ ตำรวจชุดสืบสวน ได้เบิกตัว นายเสรีย์ ออกจากห้องขังของ สภ.หาดใหญ่ พร้อมกับของกลางอาวุธปืนและลูกกระสุน มีดปลายแหลม ชุดที่ใช้ในวันเกิดเหตุ และมอเตอร์ไซด์ที่ใช้ในการหลบหนี เพื่อนำตัวไปสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งที่กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 ซึ่งขณะควบคุมตัวออกจากห้องขังนายเสรีย์ยังมีสีหน้าเรียบเฉย และไม่ตอบคำถามใดๆ กับผู้สื่อข่าวถึงสาเหตุที่ยิงพ่อของตัวเอง และเมื่อมาถึงได้ให้นายเสรีย์พบพนักงานสอบสวน ก่อนจะให้อ่านบันทึกการจับกุม และรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งนายเสรีย์อยู่ในอาการนิ่งสงบ แล้วเซ็นชื่อยอมผิดโดยดี