กรณีสาวบุรีรัมย์ วัย 37 ร้องขอความเป็นธรรม ถูกเสี่ยใหญ่ฟ้องร้องกล่าวหาฉ้อโกง โดนเรียกเงินถึง 15 ล้าน ทั้งที่เป็นการให้ด้วยความเสน่หา ขณะที่เสี่ยแฉกลับคู่กรณีเป็น 18 มงกุฎ ล่าสุดชาวบ้านแฉประวัติสาวอีกเพียบ

ความคืบหน้ากรณี น.ส. น้อย(นามสมมุติ) อายุ 37 ปี ชาวบ้าน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เข้าร้องศูนย์ดำรงธรรมอำเภอนางรอง ว่าถูกเสี่ยเต็นท์รถฟ้องร้องตนเองกับแม่ที่ป่วยจิตเวช ฐานฉ้อโกงเงินกว่า 15 ล้านบาท กระทั่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ตัดสินมีความผิด มีโทษจำคุกคนละ 5 ปี ทั้งที่เป็นเงินที่เสี่ยให้ด้วยความเสน่หา เนื่องจากตนแอบคบหาเป็นกิ๊กกับเสี่ยมานานหลายปี แต่กลับมาถูกฟ้องร้องอย่างไม่เป็นธรรม

ขณะที่นายเอ (นามสมมติ) เสี่ยเต็นท์รถที่ถูกกล่าวหา ยืนยันว่า ตนเองไม่เคยมีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับน.ส.น้อย มาก่อน และแม่ของ น.ส.น้อย ก็ไม่ได้ป่วยจิตเวช เพราะตอนนั้นทั้งสองคนมากู้ยืมเงินและเซ็นเอกสารรับสภาพทุกครั้งที่มาเอาเงินมีทั้งโอน และมาเอาเงินสด สาเหตุที่ยอมให้เงินไปเป็นจำนวนมาก เพราะ น.ส.น้อย กับแม่อ้างว่าจะมีเงินมาจากต่างประเทศ และจะมีการเปิดบริษัทใหญ่ ตนจึงทำหลักฐานไว้อย่างแน่นหนา สุดท้ายก็เป็นจริง คือฉ้อโกงเงินของตนไป

เสี่ยเอ กล่าวด้วยว่า ตนทำทุกอย่างตามกระบวนการของกฎหมายไม่ได้มีการกลั่นแกล้ง ศาลก็มองเห็นพยานและหลักฐานชัดเจนจึงตัดสินให้ทั้งแม่ทั้งลูกมีความผิดตามคำฟ้องจึงตัดสินให้จำคุกดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถามญาติของ น.ส.น้อย พบนายสูตร อายุ 85 ปี เล่าว่า เมื่อปี 2547 น.ส. น้อย เคยมาขอยืมโฉนดที่ดินจำนวน 10 ไร่ ของตนบอกว่าจะเอาไปเข้าไฟแนนซ์เพื่อเอาเงินออกมาลงทุน ตนให้ไปเพราะเห็นเป็นหลาน ตอนนั้นได้เงินประมาณ 3 แสนบาท แต่หลานสาวไม่เคยส่งดอก จนบริษัทมาทวงหลายครั้ง สุดท้ายถูกฟ้องและยึดที่นาไป

ตอนนั้นยอมรับว่าเสียใจมากเพราะมีที่นาผืนเดียว จึงตัดสินใจไปบวชพระเพื่อล้างซวย บวชทั้งหมด 17 พรรษา เพิ่งสึกออกมาไม่นาน ส่วนกรณีของเสี่ยตนไม่ทราบเรื่องและไม่อยากรับฟัง และไม่อยากกล่าวหาหลานในเรื่องที่ตนไม่เห็นด้วย แต่เรื่องของตนกับหลานยอมรับเป็นเรื่องจริง

ด้านนางจาลึก ซองรัมย์ ลูกสาวของนายสูตร ที่หนีไปบวชนาน 17 พรรษา บอกว่า เพิ่งรู้ว่าศาลสั่งจำคุกทั้งลูกและแม่ ส่วนตัวถือว่าสมควรแล้ว เพราะหลอกคนมาเยอะ

นายวรต้อ มูลทองหลาง อายุ 54 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 ต.หนองไทร อ.นางรอง บอกว่าเมื่อปี 2559 ตำรวจ สภ.หนองไทร ได้นำหมายศาลถึง น.ส.น้อย โดยให้ตนยืนยันว่ามีบ้านเลขที่นี้จริง แต่หลังจากเป็นคดี น.ส.น้อย อ้างว่าได้รับเพียงเอกสารเปล่า ไม่ใช่หมายศาล ตนยืนยันเป็นหมายศาลจริง ส่วนกรณีที่ น.ส.น้อย จะโกงเงินเสี่ยมา 15 ล้านจริงหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่เชื่อในผลการติดสินของศาล

อดีตผู้ใหญ่บ้าน เล่าด้วยว่า กรณีแม่ของ น.ส.น้อย ป่วยเป็นจิตเวชนั้น จริงแล้วเป็นโรคเกี่ยวกับอัลไซเมอร์ และมารุนแรงขึ้นระหว่างมีคดีฟ้องร้อง มักจะหลงๆลืมๆ บ่อยครั้ง สำหรับประวัติ น.ส.น้อย เคยแต่งงานมาแล้ว 4-5 ครั้ง ชอบจัดงานเลี้ยง สร้างบ้านใหม่ ไม่รู้ว่านำเงินมาจากไหน