จับอีก 133 คน ชาวเมียนมาลักลอบเข้าประเทศ ผ่านช่องทางธรรมชาติอำเภอไทรโยค

สังคม

จับอีก 133 คน ชาวเมียนมาลักลอบเข้าประเทศ ผ่านช่องทางธรรมชาติอำเภอไทรโยค

โดย weerawit_c

14 พ.ย. 2564

82 views

วานนี้ (13 พ.ย.) เวลา 06.00 น. ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ ได้รับการเเจ้งข้อมูลจาก ประชาชนในพื้นที่ อ.ไทรโยค ว่าจะมีขบวนการนำพาผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย จึงได้ทำการสนธิกำลัง ลาดตระเวนซุ่มตรวจ ร่วมกับ ฝ่ายปกครอง อ.ไทรโยค ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 136 เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรไทรโยค และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอไทรโยค ทำการจับกุมบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา กระทำผิดลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย จำนวน 133 คน (ช.74,ญ.59) บริเวณช่องทางธรรมชาติ บ.ทุ่งฉาง ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี


จากการซักถามได้ข้อมูลว่าเสียค่าใช้จ่ายรายละ 17,000 - 20,000 บาท เดินทางมาจาก จ.ทวาย , จ.ย่างกุ้ง , จ.ยะไข่ , จ.เมาะลำไย , จ.พะโค , จ.อิรวดี เเละ จ.มะเกว ประเทศเมียนมา โดยจะเข้าไปทำงานที่ กทม., จ.สมุทรสาคร, จ.กาญจนบุรี, จ.ชลบุรี, เเละ จ.ปราจีนบุรี


ได้ทำการตรวจวัดอุณหภูมิขั้นต้น ไม่พบผู้มีอุณหภูมิเกิน 37.5 องศาเซลเซียส จึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรไทรโยค เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


ขณะที่ จ.ตาก นายสวนิต สุริยกุล ณ อยุธยา ปลัดจังหวัดตาก นำกำลังชุดเคลื่อนที่เร็วกองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดตาก กำนันและผู้ใหญ่บ้านตำบลวังหิน สนธิกำลังกับตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดตาก กอ.รมน.จังหวัดตาก ทหารจากกองกำลังนเรศวร ร่วมกันนำกำลังเข้าปิดล้อมเส้นทางป่าสายเลียงเมืองเส้นทางหมู่บ้านวังหิน หมู่ที่ 4 ต.วังหิน อ.เมืองตาก เพื่อทำการลาดตระเวนบนเส้นทางล่อแหลมที่เสี่ยงต่อการขนส่งและนำพาแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้าหัวเมืองชั้นใน


จนเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ทอง ซึ่งขับมาบนเส้นทางสายอ้อมเมืองและขับมาด้วยความเร็วสูงจนฝุ่นตลบไปทั่วถนน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมซึ่งสนธิกำลังลาดตระเวนบนเส้นทางดังกล่าวจึงส่งสัญญาณให้รถยนต์คันดังกล่าวจอดและโดยทันทีที่รถยนต์คันดังกล่าวจอดนิ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบภายในรถพบตัวนายรัฐศาสตร์ แซ่จ๊ะ อายุ 36 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันดังกล่าวอยู่สภาพตัวสั่นเหงื่อแตกเมื่อเห็นกำลังเจ้าหน้าที่เข้าสกัดจับรถยนต์ของตนเอง


จากการเข้าตรวจค้นภายในรถยนต์และด้านท้ายกระบะรถพบแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายสัญชาติเมียนมาเป็นชาย 22 คนและหญิง 15 คนรวมทั้งหมดจำนวน 37 คน ทุกคนต่างนอนเบียดเสียดกันจนอัดแน่นเป็นปลากระป๋องเต็มคันรถยนต์ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายทั้ง 37 คนลงจากรถยนต์และควบคุมตัวคนขับรถยนต์ซึ่งเป็นผู้นำพาคนต่างด้าวนำตัวไปสอบสวนขยายผลพร้อมทำการตรวจ ATK เพื่อหาเชื้อโควิด-19 ซึ่งผลการตรวจพบว่าแรงงานต่างด้าวทั้งหมดที่ถูกจับกุมมีผลตรวจเป็นลบทุกคน


จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาทั้ง 37 คนที่ถูกจับกุมในครั้งนี้ได้ลักลอบแอบข้ามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ผ่านช่องทางธรรมชาติที่ไม่ทราบจุดลักลอบข้ามที่แน่นอนโดยมีกลุ่มขบวนการนายหน้าไม่ทราบชื่อได้นำพาเข้ามาในประเทศไทยและแรงงานทุกคนต้องจ่ายค่านำพาให้นายหน้าเป็นเงินคนละ 18,000 บาท ซึ่งแรงงานทั้งหมดต้องเดินเท้าเข้าป่าข้ามภูเขาหลายลูกเป็นเวลานานกว่า 7 วันซึ่งเป็นความพยายามที่จะใช้การเดินเท้าเดินอ้อมจุดตรวจหลักของเจ้าหน้าที่จนสามารถมาขึ้นรถยนต์ของนายหน้าที่มาจอดรอในจุดนัดหมายในป่าเพื่อจะเดินทางไปส่งที่ปลายทางคือกรุงเทพมหานคร แต่ถูกสกัดจับเสียก่อนจนถูกดำเนินคดี


ส่วนที่ จ.สระแก้ว มีรายงานจากสายข่าวจะมีชาวกัมพูชา หลบหนีเข้ามายังเขตไทย บริเวณไร่ข้าวโพดห่างจากชายแดน 500 เมตรตรง บ้านทับพริก หมู่ที่ 2 ต.ทับพริก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จึงสั่งการให้ ร.ท.ถาวร มีเพ็ง ผบ.ร้อยทหารพรานที่ 1302 พร้อมกำลังฝ่ายปกครองเข้าดักสุ่มบริเวณดังกล่าว พบชาวกัมพูชา เดินออกจากไร่ข้าวโพด จึงได้ตรวจสอบจับกุม พบชาวกัมพูชาจำนวน 22 คน พร้อมกระเป๋าเสื้อผ้า โทรศัพท์ บุหรี่ จึงได้สอบทราบว่า ลักลอบออกมาจากกัมพูชา เพื่อเข้ามาทำงานในไทย โดยมีงานรองรับไว้แล้วที่ จ.ฉะเชิงเทรา และ จ.สระแก้ว เพื่อรอรถยนต์มารับ แต่ถูกจับเสียก่อน จึงนำส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจคลองน้ำใสต่อไป


รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/ogLOnG6ZrP4

คุณอาจสนใจ

Related News