ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 32/2564 เมื่อวันที่ 12 พ.ย.64 มีมติเห็นชอบปรับมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตามประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 46) เพื่อเป็นการผ่อนคลายมาตรการให้บางสถานที่สามารถเปิดดำเนินการหรือทำกิจกรรมบางอย่างได้ภายใต้เงื่อนไข เงื่อนเวลา การจัดระบบ ระเบียบ และมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด และเพื่อการดำเนินการขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจควบคู่กับการกำหนดมาตรการควบคุมและป้องกันโรคในพื้นที่แบบบูรณาการ ดังนี้

1. ร้านเกม และร้านอินเทอร์เน็ต หรือตู้เกม สามารถเปิดดำเนินการได้ เนื่องจากเด็กส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนครบเข็มสองแล้วตั้งแต่ 10 พ.ย. ที่ผ่านมา ทั้งนี้ยังคงต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขเวลา และมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดโดยเคร่งครัด เช่น มาตรการ DMHTTA มาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) มาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร (Covid Free Setting รวมทั้งมาตรการตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดขึ้นเป็นการเฉพาะ

2. ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ที่ผ่านการตรวจประเมินตามมาตรฐานความปลอดภัยป้องกันโรคโควิด-19 รองรับสุขภาพดีวิถีใหม่ (Thai Stop Covid Plus) ของกรมอนามัย สามารถเปิดให้บริการได้เช่นเดียวกับร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ที่ผ่านการตรวจประเมินตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (Amazing Thailand Safety & Health Administration) ในระดับ SHA ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

ทั้งนี้ ให้ถือปฏิบัติตั้งแต่วันที่ 16-30 พ.ย.64 หรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง

ขณะที่ นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้บรรยากาศกลับมาดูดีขึ้นมาก โดยเฉพาะการเข้ามาใช้บริการร้านอาหาร ซึ่งนับตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา เห็นยอดขายในธุรกิจร้านอาหารเฉลี่ยกลับมาที่ 60% ในภาพรวม เทียบกับปี 2562 ที่เป็นช่วงก่อนเกิดการระบาดโควิด-19 อีกทั้งยังเห็นบางร้านยอดขายปรับขึ้น 70-80% เนื่องจากเป็นร้านที่ได้ตราสัญลักษณ์เครื่องหมายมาตรฐานความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวและสุขอนามัย (เอสเอชเอพลัส) หรือ SHA เป็นรายแรก ๆ ทำให้ลูกค้ามุ่งตรงไปใช้บริการ โดยเฉพาะลูกค้าที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายสูง ซึ่งจะให้ความสำคัญกับมาตรฐานของสถานประกอบการและความปลอดภัย ไม่เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในความเสี่ยงแน่นอน

การใช้จ่ายในตอนนี้เราต้องการให้ลูกค้าที่มีกำลังซื้อออกมาใช้เงินมากขึ้น ซึ่งการอนุญาตให้ร้านอาหารที่ได้มาตรฐาน SHA นั่งดื่มแอลกอฮอล์ในร้านได้ ถือว่าตอบโจทย์ในการดึงคนกลุ่มนี้เข้ามาใช้บริการ เพราะหากเป็นร้านอาหารริมทางก็อาจไม่ได้ตอบโจทย์ในเรื่องความปลอดภัย จึงมองว่าการใช้มาตรฐาน SHA ถือเป็นการยกระดับธุรกิจร้านอาหารตั้งแต่ขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ไปในตัว เพราะหากร้านขนาดเล็กต้องการให้นั่งดื่มได้ก็ต้องพยายามทำให้ร้านได้มาตรฐาน SHA และอีกทางคืออยากให้รัฐพิจารณาใช้เกณฑ์การประเมินตนเองตามมาตรการไทย สต๊อป โควิด เพราะมีฐานในการตรวจสอบมาตรฐานเริ่มต้นเหมือนกัน ในรูปแบบกำหนดเวลาขายต่างกัน อาทิ ร้านอาหารที่ได้ SHA แล้วให้ขายได้ถึง 23.00 น. ส่วนร้านที่ได้ไทย สต๊อป โควิด ให้ขายได้ถึง 21.00 น.ก่อน เพื่อให้รางวัลกับคนที่ตั้งใจและเป็นเด็กดี

หลังจากผ่อนคลายให้ดื่มในร้านได้ถึง 21.00 น. แต่ตัวเลขการระบาดโควิด-19 ไม่ได้กลับมาพุ่งสูงขึ้น หรือเกิดความกังวลใหม่ ก็อาจขอให้รัฐพิจารณาขยายเวลาในการนั่งดื่มเพิ่มขึ้น แต่ก็อยากให้กำหนดใช้มาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร (โควิด ฟรี เซตติ้ง) เข้าใช้ก่อน เพราะถือเป็นมาตรฐานด้านความปลอดภัยที่กำหนดว่าพนักงานและลูกค้า จะต้องได้วัคซีนครบโดสแล้ว 100% รวมถึงตรวจเอทีเคก่อนเข้าใช้บริการและก่อนให้บริการด้วย เพื่อความปลอดภัยทั้ง 2 ฝ่าย

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/F_VTgjuY4t4