ความเคลื่อนไหวต่อเนื่องหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัย ว่า การกระทำของนายอานนท์ นำภา นายภาณุพงศ์ จาดนอก และนางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามมาตรา 49 ของรัฐธรรมนูญ และมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ผู้ถูกร้องและกลุ่มองค์กรเครือข่าย ยกเลิกการกระทำที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย

ตลอด 3 วันที่ผ่านมาก็มีความเคลื่อนไหวจากกลุ่มผู้เห็นต่างกับคำวินิจฉัยออกมาแสดงท่าทีในรูปแบบต่างๆทั้งประกาศจุดยืนเดิมของการเคลื่อนไหว ล่าสุด กลุ่มราษฎรและเครือข่าย ประกาศจะนัดชุมนุมแสดงออกในเรื่องนี้ต่อในวันพรุ่งนี้ (14 พ.ย. 64)

กลุ่มไม่เอาสมบูรณาญาสิทธิราชย์ นำโดย รุ้ง-ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ร่วมกันแถลงแนวทางขับเคลื่อน และยืนยันจะเรียกร้อง 10 ข้อการปฏิรูปสถาบันฯ โดยการขับเคลื่อนจะเป็นไปด้วยความสันติในการชุมนุม และเห็นว่าหากจะใช้ ม.112 ดำเนินคดีกับผู้ถูกร้องนั้น จะต้องมีพฤติการณ์ "ประทุษร้าย" ยืนยันการชุมนุมทุกครั้ง และนับจากนี้ จะเป็นไปด้วยความสงบสันติปราศจากอาวุธ แต่ก็ยอมรับ มีความกังวลใจบ้าง เพราะไม่รู้ว่ารัฐจะใช้เครื่องมือกลไกใดกับประชาชน ก่อนจะยืนยันว่าการเรียกร้องนั้นเป็นการปฏิรูปไม่ใช่การล้มล้างการปกครอง

ส่วนทิศทางการขับเคลื่อนในอนาคต ยังคงเดินหน้าเรียกร้องต่อ แม้จะเป็นไปได้ยาก พร้อมกับแสดงความเห็นว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกำลังปิดประตูการปฏิรูปตามข้อเรียกร้อง แต่ยืนยันและเชื่อว่า พลังของประชาชนจะสามารถผลักและเปิดประตูได้อีกครั้ง จนกว่าการปฏิรูปสถาบันจะเกิดขึ้นและสำเร็จลง โดยไม่ว่าช่องทางใดในการเสนอปฏิรูปได้ ก็จะพยามที่จะดำเนินการ ทั้งเวทีรัฐสภา -การชุมนุมและอื่นๆ

กรณีคำร้องยุบพรรคก้าวไกล ข้อกล่าวหาสนับสนุนผู้ถูกศาลวินิจฉัยพฤติการณ์ล้มล้างการปกครองนั้น นางสาวปนัสยา ระบุว่าการประกันตัวเป็นหน้าที่การใช้สิทธิ ส.ส. แต่มองเป็นเกมส์การเมืองที่วางไว้นานแล้ว เพื่อออกคำวินิจฉัยมา ยุบพรรคก้าวไกล หลังยุบพรรคอนาคตใหม่

สำหรับการชุมนุม ในวันพรุ่งนี้ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จะใช้สิทธิอย่างสันติ ส่วนจะรุนแรงหรือไม่ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติของรัฐบาลเอง และการประกาศไม่เอาระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์คือการยกระดับการชุมนุมของประชาชน

ส่วนการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม กับกลุ่มทะลุฟ้า พลตำรวจตรี จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันว่า จะไม่ให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนไปที่ท้องสนามหลวง หากฝ่าฝืนตำรวจมีความจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย โดยเตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เพื่อเข้าดูแลความเรียบร้อย และขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางและบริเวณใกล้เคียงพื้นที่การชุมนุม