เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และตำรวจ สภ.คอหงส์ บุกจับร้านอาหารชื่อดัง ใน อ.หาดใหญ่ เปิดให้นักเที่ยวเข้าไปจัดปาร์ตี้ฉลองวันเกิดดื่มกิน รวบนักเที่ยวทั้งชายหญิง 24 คน ดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด หลังเคยถูกตักเตือนมาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่ปฏิบัติตาม

วันที่ 12 พ.ย.64 เวลาประมาณ 3 ทุ่มที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอหาดใหญ่ ภายใต้การสั่งการของ นายชวกิจจ์ สุวรรณคีรี นายอำเภอหาดใหญ่, นายเอกชัย แก้วรัตนะ ปลัดอาวุโส ได้สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคง อ.หาดใหญ่ นำโดยนายธีรเดช จันมณี ปลัดอำเภอ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง พร้อมกำลัง อส.กองร้อย อส.หาดใหญ่ ที่ 4 จำนวน 20 นาย ร่วมกับตำรวจ สภ.คอหงส์ เข้าตรวจสอบร้านอาหาร The Trap ตั้งอยู่เลขที่ 17/1 ซ.2 ถ.ธรรมโชติอุทิศ เขตเทศบาลเมืองคอหงส์ อ.หาดใหญ่ ซึ่งเป็นหนึ่งในร้านอาหารชื่อดังใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลังจากที่ได้รับรายงานว่า มีการจำหน่ายอาหาร สุรา และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่ลูกค้านั่งดื่มกันภายในร้าน ในลักษณะการจัดเป็นปาร์ตี้

โดยพบนักเที่ยวทั้งหญิงและชาย นั่งดื่มกินกันตามโต๊ะภายในร้าน และส่งเสียงดังรบกวนชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง และพบเหล้าเบียร์จำนวน 25 ขวด ถังน้ำแข็ง แก้วเหล้าประมาณ 30 ใบ บิลจำหน่ายอาหาร และกับแกล้ม

จึงควบคุมตัวเอาไว้ทั้งหมด 24 คน เป็นชาย 14 คน และหญิง 10 คน โดยมี น.ส.ฐิติมา สุขศักดิ์ อายุ 29 ปี รับเป็นเจ้าของร้าน และร่วมนั่งดื่มกินกันภายในร้านด้วย และพฤติกรรมของนักเที่ยวกลุ่มนี้ไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่ง จ.สงขลา ยังมีการระบาดสูงติดอันดับ 2 ของประเทศ

จึงควบคุมตัวมาทำบันทึกจับกุมที่ที่ว่าการอำเภอหาดใหญ่ และส่งพนักงานสอบสวน สภ.คอหงส์ ดำเนินคดีใน 2 ข้อหาคือ มีเจตนาจงใจฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลา เรื่องมาตรการควบคุมพื้นที่ที่จำเป็นอย่างเร่งด่วนเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 กรณีร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม โดยการห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน

และร่วมกันฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกตามความใน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่ห้ามมิให้การมั่วสุมที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค และห้ามมิให้มีการชุมนุมรวมกลุ่มที่เสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ควบคุมเข้มงวดสูงสุดผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมีความผิดต้องระวางโทษทั้งจำและปรับ

สำหรับร้าน The Trap แห่งนี้ ทั้งฝ่ายปกครอง และตำรวจ สภ.คอหงส์ ได้ว่ากล่าวตักเตือนไปแล้วหลายครั้ง แต่ไม่ปฏิบัติตามแต่อย่างใด สุดท้ายเจ้าหน้าที่ใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดจับกุมดำเนินคดีดังกล่าว