ผู้ตกเป็นเหยื่อฉ้อโกงทางออนไลน์อย่างต่อเนื่อง เพราะมีอุปสรรคในการจับกุมมิจฉาชีพที่หลอกลวง –ฉ้อโกงทางออนไลน์ หลายประเภท โดยเฉพาะใช้บัญชีผู้อื่นไว้ทำธุรกรรมทางการเงิน เมื่อสาวไม่ถึงตัวการใหญ่ พบว่ากลุ่มมิจฉาชีพฉ้อโกงวันละหลายหมื่นไปจนถึงหลายแสนบาท ล่าสุด กลุ่มนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง เข้าร้องเรียนว่าถูกมิจฉาชีพฉ้อโกงในวันเดียวกันจำนวนหลายราย จนถึงปัจจุบันก็ยังเปิดเพจหลายเพจในการฉ้อโกง

โดยตัวแทนผู้เสียหายซึ่งเป็นนักศึกษา ที่ต้องใช้โน๊ตบุ๊คในการเรียนทางออนไลน์ ถูกมิจฉาชีพฉ้อโกงเงินไปคนละกว่าหมื่นบาท ซึ่งเป็นเงินจำนวนมาก เพราะต้องเก็บเล็กผสมน้อย จนมีเงินหมื่น และได้เลือกซื้อกับบริษัทที่น่าเชื่อถือแล้ว แต่ตอนจ่ายเงิน เจ้าของสินค้าได้ชักชวนให้จ่ายผ่านผู้ขายโดยตรง ก่อนโอนเงินผู้ขายแจ้งว่า กำลังแพ็คสินค้าจัดส่งทันที แต่เมื่อโอนเงินไปปรากฎว่าติดต่อไม่ได้อีก และถูกบล็อคชื่อ เมื่อติดตามไปหาผู้ที่โอนเงินไป ก็ปฏิเสธไม่ทราบเรื่อง

ส่วนผู้ปกครองหลายคน ที่ต้องหาเงินมาซื้อไอเพด ให้ลูกได้เรียนหนังสือ ระบุว่าถูกฉ้อโกงวันเดียวกัน และเมื่อติดต่อไปตามบัญชีที่โอนไป พบว่าเป็นบัญชีม้าที่ขายบัญชีให้กับคนร้าย

ขณะที่ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ระบุว่า ขณะนี้คดีหลอกลวงฉ้อโกงทางออนไลน์ เป็นปัญหาที่มีผู้ร้องเรียนร้องมาเป็นอันดับหนึ่ง มีผู้ตกเป็นเหยื่อทั่วประเทศ เพราะมิจฉาชีพจะหลอกเหยื่อรายละไม่มาก แต่หลอกทั่วประเทศ รวมแล้วตัวเลขฉ้อโกงสูง จึงต้องการให้ภาครัฐหลายหน่วยงาน ร่วมกันจัดการอย่างจริงจังและทันการกับแก๊งมิจฉาชีพเหล่านี้ ทั้งธนาคาร ซึ่งพบว่ายังมีการเปิดบัญชีม้าจำนวนมากและการอายัดบัญชียังล่าช้า ไม่ทันต่อคนร้าย และคนร้ายที่ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ ในการหลอกลวงไม่มีการขึ้นทะเบียน จึงฉ้อโกงกันแบบไม่เกรงกลัวกฎหมาย

โดยตัวแทนผู้เสียหายได้เข้าร้องทุกข์ต่อตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือPCT และต้องการเตือนภัยให้นักเรียน นักศึกษาผู้ปกครองซื้อจากร้านยอมให้ชำระสินค้าปลายทาง