กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงเปิดงานฉลองสมโภชรูปหล่อฤาษีดัดตน และพิพิธภัณฑ์นวดไทย

พระราชสำนัก

กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงเปิดงานฉลองสมโภชรูปหล่อฤาษีดัดตน และพิพิธภัณฑ์นวดไทย

โดย panwilai_c

12 พ.ย. 2564

224 views

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเปิดงานฉลองสมโภชรูปหล่อฤาษีดัดตน 80 ท่า 82 ตน และทรงเปิดพิพิธภัณฑ์นวดไทย มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม


วันนี้ เวลา 15.02 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร โอกาสนี้ ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่ง บูชาพระพุทธไสยาสน์


จากนั้น ทรงเปิดงานฉลองสมโภชรูปหล่อฤาษีดัดตน 80 ท่า 82 ตน พร้อมกับ ทรงเปิดงานวันภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย และพิพิธภัณฑ์นวดไทย มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ซึ่งทางวัด ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงวัฒนธรรม และมูลนิธิสิริวัฒนภักดี จัดโครงการบูรณะฤาษีดัดตนให้ครบ 80 ท่า 82 ตน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา 2 เมษายน 2558 เพื่อทำให้การนวดไทยตำรับวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม และฤาษีดัดตนสมบูรณ์แบบ เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม และเป็นประโยชน์ กับมวลมนุษยชาติ ทดแทนฤาษีดัดตนที่คงเหลือเพียง 24 ตน เนื่องจากชำรุดไปตามกาลเวลา


ทั้งนี้ เมื่อปี 2374 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้สร้างฤาษีดัดตน เมื่อครั้งสถาปนา และปฏิสังขรณ์วัดโพธิ์ เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้การดัดตน ซึ่งเป็นการผ่อนคลายร่างกายจากอาการเมื่อยล้า รวมทั้งบำบัดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ จำนวน 80 ท่า 82 ตน และในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า ทรงดำเนินการหล่อ และบูรณะต่อ โดยเหลือรูปปั้นฤาษีดัดตนเพียง 24 ท่า ดังนั้นในปี 2559 จึงมีการหล่อขึ้นใหม่ ด้วยทองเหลืองรมดำ ให้ครบตามจำนวนเดิม และนำมาจัดแสดงบริเวณรอบถ้ำเขามอ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ศาสตร์ด้านการแพทย์แผนไทย แก่ผู้สนใจทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ


โอกาสนี้ ทอดพระเนตร นิทรรศการภาพวาดฝาผนัง และศิลาจารึกคัมภีร์แผนนวดวัดพระเชตุพนฯ ซึ่งเมื่อปี 2554 องค์การยูเนสโก มีมติรับรองให้จารึกวัดพระเชตุพนฯ ขึ้นทะเบียนรับรอง เป็นมรดกความทรงจำแห่งโลกในระดับนานาชาติ ซึ่งมีจารึกแผนนวดวัดโพธิ์รวมอยู่ด้วย หลักฐานชิ้นสำคัญด้านการ "นวดไทย"ที่องค์การยูเนสโก ถือว่าครบถ้วนและสมบูรณ์มากที่สุด คือ จารึกแผนนวดวัดโพธิ์ ที่ทำให้ "นวดไทย" ได้รับการขึ้นทะเบียนรับรองดังกล่าว


รวมทั้ง ทอดพระเนตร เขามอฤาษีดัดตน ซึ่งเป็นสวนหินปลูกไม้ประดับที่รัชกาลที่ 3 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้รื้อก้อนศิลา ในพระบรมมหาราชวัง มาก่อเป็นภูเขา ประดับรอบวัด มีสถูป และเสาโคมแบบจีน รูปตุ๊กตาจีน และรูปสัตว์จัตุบาท เรียงรายอยู่ทั่วไป ส่วนเขาฤาษีดัดตน เป็นพระราชประสงค์ของรัชกาลที่ 1 ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้รวบรวมการแพทย์แผนโบราณ และศิลปวิทยาการครั้งกรุงศรีอยุธยาไว้ ทรงพระราชดำริเอาท่าดัดตนอันเป็นการพักผ่อนอิริยาบถ แก้ปวดเมื่อยตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ประยุกต์รวมกับคติไทย ที่ยกย่องฤาษีเป็นครู ปั้นรูปดัดตนท่าต่างๆ


จากนั้น ทรงพระดำเนินไปทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ พระมหาเจดีย์ 4 รัชกาล ประกอบด้วยพระมหาเจดีย์ ศรีสรรเพชดาญาณ สมัยรัชกาลที่ 1 พระมหาเจดีย์ ดิลกธรรมกรกนิทาน และพระมหาเจดีย์ มุนีบัตบริขาร สมัยรัชกาลที่ 3 และพระมหาเจดีย์ ทรงพระศรีสุริโยทัย เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา สมัยรัชกาลที่ 4


ต่อจากนั้น ทรงเปิดพิพิธภัณฑ์นวดไทย มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม จัดแสดงในลักษณะมัลติมีเดีย ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ แบ่งการจัดแสดงเป็น 2 ห้อง ได้แก่ ประวัติความเป็นมาของการนวดไทย จากอดีตถึงปัจจุบัน คัมภีร์ ตำรา จารึกการนวดไทย และประวัติความเป็นมาของโรงเรียนแพทย์แผนโบราณวัดโพธิ์ ในฐานะเป็นสถานศึกษาของประเทศ ที่สืบทอดรากเหง้าจากภูมิปัญญาของชาติ มีการจัดระบบการเรียนการสอน ที่เป็นมาตรฐาน ปรับปรุงเปลี่ยนแปลง พัฒนาองค์ความรู้ ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ด้วยกระบวนการตามแบบโบราณ ผสมผสานกับวิธีการแบบสมัยใหม่ ให้สอดคล้องและทันยุคสมัย เป็นที่ยอมรับในระดับสากล นอกจากนี้ ได้ทอดพระเนตรนิทรรศการ มิตรภาพที่งดงาม ระหว่างสองศาสนาวาติกัน-วัดพระเชตุพน