เจาะประวัติ "ส.จ.ดำ" พบคดีฉ้อโกง มีหนี้ต้องจ่าย 29 ล้าน ภายในสิ้นปีนี้

สังคม

เจาะประวัติ "ส.จ.ดำ" พบคดีฉ้อโกง มีหนี้ต้องจ่าย 29 ล้าน ภายในสิ้นปีนี้

โดย pattraporn_a

11 พ.ย. 2564

483 views

ปมการสังหารครอบครัว ส.จ.ดำ เมืองคอน ยังเป็นเรื่องที่หลายคนยังคาใจ ว่าเกิดจากปัญหาอะไรกันแน่ หรือเป็นการฆาตกรรมอำพรางอย่างที่ญาติบางคนสงสัย เจาะประวัติของ ส.จ.ดำ พบว่ามีคดีความเรื่องฉ้อโกง และมีหนี้สินที่ต้องชำระภายในเดือนธันวาคมอีก 29 ล้านบาท


เหตุสลดครั้งนี้เกิดขึ้นช่วง 14.40 น. วานนี้ (10 พ.ย.) ตำรวจ สน.หัวหมาก ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันภายในบ้านหลังหนึ่ง ซอยกรุงเทพ-กรีฑา 7 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตเป็นครอบครัว 4 ชีวิตประกอบด้วย พ่อ แม่และลูกสาว 2 คน


เข้าไปในบ้านชั้น 1 ไม่พบความปิดปกติ แต่บริเวณบันไดชั้นลอยใกล้ห้องนอนชั้น 2 ศพ นางสาวภัทรณัฐ สังข์ประไพ และบันไดทางขึ้นชั้น 3 พบศพลูกสาวคนเล็กวัย 11 ปี ศพลูกสาวคนโตวัย 13 ปี โดนยิงที่หน้าคอมพิวเตอร์ ในห้องนอนชั้น 3 ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายธวัชชัย ทองอ่อน อายุ 48 ปี หรือที่รู้จักในชื่อ ส.จ.ดำ นครศรีธรรมราช เป็นสามีของ นางสาวภัทรณัฐ และเป็นพ่อของเด็กหญิงทั้ง 2 คน ยิงตัวเองเสียชีวิตอยู่ในห้องนอนชั้น 2 ของบ้าน


จากการตรวจสอบภายในบ้านพบอาวุธปืน 5 กระบอก ปืนสั้น 2 กระบอก เเละปืนยาว 3 กระบอก สำหรับอาวุธปืนที่ ส.จ.ดำ ใช้ยิงภรรยาเเละลูก เป็นปืนลูกโม่ขนาด จุด 38 เเละปืนสั้น ขนาด 9 มม. ออโตเมติก ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุยิงตัวเองนั้น เป็นปืนลูกซองยาว


ซึ่งเมื่อวานนี้ 1 ในพยานบุคคลที่มาดูที่เกิดเหตุ คือ นาวาตรี สมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักมวยเหรียญทองโอลิปปิก บอกว่า รู้จักกับ ส.จ.ดำ มานานกว่า 15 ปี และถูกชักชวนให้ลงทุนลอตเตอรี่จนขาดทุนไปกว่า 10 ล้านบาท และนัดว่าจะคืนเงินให้ 2.5 ล้านบาท โดยนัดกันที่ร้านอาหารซึ่งอยู่หลังมหาวิทยาลัยรามคำแหง แต่ก็ไม่ได้มา กระทั่งมาทราบเหตุ


ด้าน พลตำรวจตรี พรชัย ผดุงกลิ่น ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 เปิดเผยว่า ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งฆ่าตัวตาย และถูกคนภายนอกที่ถูกฆาตกรรม ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์คราบเขม่าดินปืน และผลชันสูตรบริเวณที่โดนยิงของทั้ง 4 ศพ


ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา  (11 พ.ยง) ผลชันสูตรเบื้องต้นทั้ง 4 ศพออกมาแล้ว ระบุว่า ถูกกระสุนปืนทำลายสมองเป็นเหตุให้เสียชีวิต ซึ่ง พลตำรวจตรี วิชัย สังข์ประไพ หรือ มือปราบหูดำ ญาติของ นางสาวภัทรณัฐ เข้าไปติดต่อรับศพทั้ง 4 คนที่สถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ


พลตำรวจตรี วิชัย เปิดเผยว่า นางสาวพัชรณัฏฐ์ มีศักดิ์เป็นหลาน เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยรามคำเเหง เเต่ถูกหางเลขจากการที่สามีเป็นหนี้สิน ทำให้กลายเป็นบุคคลล้มละลายไปด้วย เมื่อพ้นจากข้อหาจึงกลับไปสมัครสอบเข้าเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยรามคำเเหงอีกครั้ง จนกระทั่งเกิดเหตุ


ส่วนตัวเชื่อว่าสาเหตุการฆ่ายกครัวในครั้งนี้ เกิดจากปัญหาหนี้สินมูลค่าหลายสิบล้านบาท ที่ อดีต สจ.ดำ กู้ยืมลงทุนในธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ประมูลงาน เเละเล่นการเมือง ซึ่งเป็นหนี้ผูกพันจากอดีต และฟางเส้นสุดท้ายอาจมาจากการถูกเร่งรัดหนี้ลอตเตอรี่ 10 ล้านบาท เพราะวันเกิดเหตุนัดจ่ายหนี้ เบื้องต้น 2.5 ล้านบาท แต่ ส.จ.ดำ ตัดสินใจก่อเหตุก่อนจะพบ นายสมรักษ์ เพื่อใช้หนี้


ขณะที่ นายกำชัย สังข์ประไพ น้องชายของ นางสาวพัชรณัฏฐ์ ยอมรับว่า รู้ปัญหาของครอบครัวพี่สาวมาตลอด เพราะพี่สาวมักจะโทรศัพท์มาปรึกษา ที่ผ่านมาเคยให้พี่สาวยืมเงินหลักล้านบาท และที่คุยกันล่าสุดราว 2 สัปดาห์ก่อนก็ไม่มี สัญญาณบอกเหตุว่าจะเกิดเหตุร้าย


หลังจากศพทั้ง 4 เคลื่อนออกมาจากโรงพยาบาลตำรวจ ก็มาที่บ้านเกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ ท่ามกลางความเสียใจของญาติที่มาร่วมงาน ก่อนจะไปตั้งสวดพระอภิธรรมศพที่วัดเทพลีลา


ขณะที่ทีมข่าวไปที่ร้านอาหารของ ส.จ.ดำ ย่านรามคำแหง เป็นหนึ่งในธุรกิจของครอบครัวนี้ พบกลุ่มเครือญาติมารวมตัว เพื่อรอเวลาเดินทางไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดเทพลีลา ที่ตั้งอยู่ไม่ห่างจากร้านดังกล่าว นายฉัตร หลานชายของ ส.จ.ดำ บอกกับทีมข่าวสั้นๆ ว่า น้าชายเป็นคนอัธยาศัยดีไม่เคยมีปัญหาทะเลาะกับใคร และไม่เคยเล่าปัญหาให้ญาติฟัง ซึ่งตอนนี้ญาติยังคงช๊อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่ขอพูดถึงในรายละเอียดอื่นๆ


ส่วนเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันกับบ้าน ส.จ.ดำ บอกว่า ย้ายมาอยู่ติดกับบ้านผู้ตายตั้งแต่ปี 2552 ผู้ตายและภรรยาเป็นคนอัธยาศัยดี มักนำขนมและผลไม้มาแบ่งปันบ่อยครั้ง และเธอมักจะทำหน้าที่รับจดหมายแทนคนที่บ้าน ส.จ.ดำ บ่อยครั้ง เวลาที่ไม่มีคนอยู่ ที่ผ่านมา ส.จ.ดำ ไม่เคยมีปัญหากับใครเลย แม้แต่การทะเลาะในบ้านก็ไม่เคยได้ยิน


เมื่อวานช่วงเวลาบ่ายสอง ขณะที่ตนอยู่ภายในบ้านทำกิจวัตรตามปกติ ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ในตอนแรกคิดว่าเป็นบ้านที่อยู่ด้านหลัง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยได้ยินเสียงมีการทะเลาะอยู่บางครั้ง แต่เมื่อไปพยายามฟังที่หลังบ้านก็ไม่ใช่ ก็จะพบว่าเสียงดังคล้ายอาวุธปืนมาจากบ้านของ ส.จ.ดำ ซึ่งขณะนั้นตนเองยังมีการเดินไปที่หน้าบ้านของ ส.จ.ดำ เพื่อไปดู และสอบถามยังเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันก่อนจะเดินย้อนกลับมาที่บ้านพัก และได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีกหนึ่งชุด ตนเองจึงมั่นใจว่าต้องเกิดเหตุขึ้น แต่ไม่กล้าเข้าไปดู ก่อนที่ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน ได้มีการติดต่อตำรวจเข้ามาตรวจสอบ จึงรู้ว่ามีการก่อเหตุยิงภรรยาและลูกทั้งสองรวมถึงยิ่งตนเองจนเสียชีวิต รวม 4 ศพ


ด้าน พันตำรวจเอกจักรเพชร เพชรพลอยนิล รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 ระบุว่า พนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ได้เรียกสอบปากคำพยานไปหลายปากเมื่อคืนนี้ เพื่อหาความชัดเจนแรงจูงใจในการก่อเหตุฆาตกรรมคนในครอบครัว เบื้องต้นมุ่งเป้าไปที่ประเด็นส่วนตัวและปัญหาหนี้สินของผู้เสียชีวิต ยืนยันว่ายังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ยังมีพยานอีกหลายปากที่ต้องเรียกเข้าไปสอบสวนปากคำโดยเฉพาะคนใกล้ชิดกับผู้เสียชีวิต มองว่าคดีนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน กระทบกับบุคคลหลายฝ่าย ต้องสอบสวนอย่างรอบคอบให้เกิดความชัดเจน ก่อนสรุปข้อเท็จจริงต่อสังคม



 ชมผ่านยูทูบ :  https://youtu.be/eCexpFLd9J4

คุณอาจสนใจ

Related News