ความคืบหน้ากรณีมีการโพสต์ขายเคกาแฟ หรือกาแฟผสมยาอี ซองละ 3,000 บาท ในโซเชียล  ปรากฎว่าทางเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. แกะรอยจนเจอตัว จนกระทั่งช่วงเย็นวันที่ 7 พ.ย. จึงนำกำลังบุกจับกุม นายนพพร สุชัยเจริญรัตน์ ที่หอพักย่านอ่อนนุช * เบื้องต้น นายนพพร อ้างว่า นำคลิปและภาพมาจากต่างประเทศ แล้วมาโพสต์ขายในทวิตเตอร์ เพื่อหลอกบรรดานักเสพ ถ้าสนใจให้แอดไลน์ จากนั้นคุยแชทตกลงราคา ก่อนจะให้โอนเงินมา พอโอนเงินแล้วจะบล๊อกหนีทันที เพราะเขาไม่มียาเสพติดตามที่โพสต์ขาย และจะเปลี่ยนชื่อบัญชีไลน์ไปเรื่อยๆ ซึ่งบัญชีไลน์ล่าสุดพบว่า ทำมาประมาณ 3 เดือนก่อนปิดหนี ยอดเงินกว่า 5 แสนบาท แต่คาดว่าก่อนหน้านี้ทำมาเป็นปีแล้ว เบื้องต้นพบผู้เสียหายกว่า 90 ราย ส่วนเงินที่ได้มานำไปเล่นการพนัน โดยจากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่า มีการโอนเงินออกไปยังบัญชีปลายทางที่อยู่ในกัมพูชา โดยจะโอนครั้งละไม่มาก แต่หลายครั้งและจากการตรวจสอบผู้ต้องหาทั้ง 2 บัญชี ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน

แต่นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. ระบุว่า ถึงแม้ว่าจะไม่มียาเสพติดจริง แต่ก็ถือว่ามีความผิด ฐานโฆษณายาเสพติดให้โทษ ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับตั้งแต่ 2 หมื่นถึง 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากทำต่อเนื่อง มีโทษปรับวันละไม่เกิน 5,000 บาท หรือไม่เกิน 2 เท่าของค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการโฆษณาตลอดระยะเวลาที่ฝ่าฝืน * ส่วนคลิป "เคกาแฟ" ที่โพสต์ในแอป ฯ ติ๊กต่อก เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. สืบพบว่าเป็นของชายคนหนึ่ง จึงเชิญตัวมาสอบปากคำที่ ป.ป.ส. โดยชายคนนี้ อ้างว่านำคลิปมาจากอินเทอร์เน็ตนำมาตัดต่อประกอบเพลง ตอนที่โพสต์ชวนเพื่อนมาจัดปารตี้เพื่อความบันเทิงเท่านั้น และยอมรับว่าในงานเสพยาอีแบบเม็ด ไม่มีเคกาแฟ และพอไปค้นที่บ้านก็ไม่เจอยาเสพติด ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสืบสวนหากลุ่มผู้จำหน่ายยาอีต่อไป

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/eAohwrQkb0I