หลายจังหวัดตามแนวชายแดน พบแรงงานข้ามชาติลักลอบเข้าประเทศ รับความต้องการแรงงานช่วงเปิดประเทศ หวั่นเป็นพาหะเชื้อโควิด-19

ในช่วงเปิดประเทศ ที่กิจการต่างๆ ต้องการแรงงานจำนวนมาก ทำให้มีขบวนการนำพาแรงงานข้ามตามแนวชายแดน มีการเคลื่อนไหวกันถี่ขึ้น ซึ่งเป็นตัวการนำพาเชื้อโรคข้ามแดน และยังมีส่วนอย่างมากในการละเมิดสิทธิ์แรงงาน จนเข้าข่ายการค้ามนุษย์

วันนี้ (7 พ.ย.) พบกลุ่มขบวนการขนแรงงานชาวเมียนมา จากชายแดนโดยใช้เส้นทางลัดเลาะตามไหล่เขา รอยต่ออำเภอพบพระ มายังอำเภอวังเจ้า จนรถเกิดพลิกค่ำในพื้นที่บ้านผาผึ้งหมู่ที่ 6 ตำบลเชียงทอง อำเภอวังเจ้า จังหวัดตาก โดยรถยนต์คันเกิดเหตุเป็นรถยนต์กระบะ โตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน บธ 7293 ตาก

หลังประสบอุบัติเหตุ คนขับได้ทิ้งรถแล้วเคลื่อนย้าย แรงงานขึ้นรถยนต์กระบะอีกคันก่อนจะนำแรงงานจำนวน 23 คน ซึ่งมีผู้บาดเจ็บสาหัส 4 คน และเสียชีวิต 3 คน ไปทิ้งไว้ในบริเวณป่ายาง บ้านหนองนกกระทา หมู่ 12 ตำบลนาบ่อคำ อำเภอเมืองกำแพงเพชร

พลตำรวจตรี ปกปภพ บดีพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพยานหลักฐาน พบทั้งรองเท้ากระจายหลายจุด และมีที่กองรวมกันไว้ และยังพบเสื้อผ้าเปื้อนเลือด และวัสดุอีกหลายชนิด ที่เชื่อมโยงกับรถคันเกิดเหตุ

นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดของ อบต.นาโบสถ์ ที่สามารถบันทึกรถยนต์ต้องสงสัย ที่ตำรวจสงสัยว่า เป็นรถที่มาขนถ่ายแรงงานจากรถคันเกิดอุบัติเหตุ

ขณะที่จังหวัดกำแพงเพชร พื้นที่ที่แรงงานถูกนำไปทิ้งไว้ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกำแพงเพชร ได้สอบเพิ่มแรงงานชาวเมียนมา 16 คน เพื่อคัดแยกว่า ทั้งหมดเข้าข่ายตกเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์หรือไม่ นอกจากนี้ ยังได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 พบแรงงานที่รอดชีวิตติดเชื้อ 2 คน และมีผู้เสียชีวิตติดเชื้ออีก 1 คน

ส่วนที่จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นชายแดนที่ใกล้กรุงเทพมหานครมากที่สุด วันนี้เพียงครึ่งวัน ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ สนธิกำลังกับ ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 136 เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรไทรโยค ฝ่ายปกครองอำเภอไทรโยค และเจ้าหน้าที่สาะรณสุขอำเภอไทรโยค ได้ร่วมกันจับแรงงานชาวเมียนมา ลักลอบเข้าประเทศได้สองรอบ มีแรงงานชาวเมียนมารวม 132 คน แรงงานเหล่านี้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า พวกเขาต้องจ่ายค่านายหน้าคนละ 15,000 ถึง 28,000 บาท