ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตั้งคณะพนักงานสอบสวนดำเนินคดีฟอกเงินจากธุรกิจน้ำมันเถื่อนของนายสหชัย เจียรเสริมสินหรือเสี่ยโจ้ปัตตานี หลังถูกจับกุมได้ที่ตลาดห้วยขวาง

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ตั้งชุดพนักงานสอบสวนในคดีฟอกเงินของธุรกิจค้าน้ำมันเถื่อน ของ นายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือเสียโจ้ปัตตานีอายุ 53 ปี โดยมี พลตำรวจโทธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เป็นหัวหน้าชุดทำงาน

หลังจากจับกุมตัวเสี่ยโจ้ได้ที่ตลาดห้วยขวาง เมื่อตี 1 ของวันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมาแต่ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและขอต่อสู้คดีในชั้นศาล

โดยคดีฟอกเงิน ทางกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ ปอศ. ได้ออกหมายจับเนื่องจากเห็นว่าการค้าน้ำมันเถื่อนเป็นความผิดมูลฐานฟอกเงิน โดยนายสหชัย ถูกเจ้าหน้าที่หลายหน่วยตรวจจับเรือน้ำมันกลางน่านน้ำ จ. สงขลาก่อนหน้านี้ ได้ของกลางน้ำมันเถื่อนจำนวนมาก และเงินสดบนเรือกว่า 120 ล้านบาท

นอกจากนี้นายสหชัยยังเคยถูกเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน รวมทั้งชุดปฏิบัติการปราบปรามภัยแทรกซ้อนต่อความมั่นคง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า บุกตรวจค้น ห้างหุ้นส่วนจำกัด สินทรัพย์ทวีค้าไม้และได้คุมตัวนายสหชัยไปสอบสวนในคดีความมั่นคง

เนื่องจากต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับการค้าน้ำมันเถื่อนรายใหญ่ของภาคใต้ พบหลักฐานแผ่นตรวจลงตราปลอมนำเข้าไม้ จำนวนมาก คดีนี้พนักงานสอบสวนสั่งฟ้อง ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาจำคุก 1 ปี 9 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโดยคดีสิ้นสุด แต่เสี่ยโจ้ได้หลบหนีออกไปประเทศเพื่อนบ้าน และมีหนังสือเดินทางสองสัญชาติ ทำให้เข้า-ออกประเทศเพื่อนบ้านได้ง่าย

หลังถูกจับได้ และสอบสวนเบื้องต้น เสี่ยโจ้ ปฏิเสธให้การในชั้นสอบสวน และจากคดีอาญาที่เคยถูกแจ้งข้อหาไว้ 14 คดี ส่วนใหญ่คดีอยู่ในชั้นอัยการ ล่าสุดตำรวจได้คุมตัวนายสหชัย หรือเสี่ยโจ้ ส่งตัวให้พนักงานอัยการจังหวัดสงขลา เพื่อดำเนินคดีค้างเก่าแล้ว

ขณะที่การจับกุมเรือน้ำมันดีเซล 1 ล้าน 2 แสนลิตร ที่ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและหลายหน่วยงาน ตรวจสอบพบเป็นน้ำมันที่ส่งขายต่างประเทศ ได้รับยกเว้นภาษีสรรพสามิต แต่ได้ย้อนกลับมาขายในประเทศ เชื่อนายทุนที่อยู่เบื้องหลัง โดยจับกุมนายนิมิตร์ เพชรรัตน์ และลูกเรืออีก 8 คน อยู่ระหว่างสอบสวนขยายผล เพราะอาจจะเชื่อมโยงถึงนายสหชัย หรือเสี่ยโจ้หรือไม่ อยู่ระหว่างตรวจสอบหลักฐาน