ระยอง-เกิดเหตุสะเทือนขวัญ ภรรยาตำรวจ กระโดดจากชั้น 4 แฟลตตำรวจ ข้าง สภ.แกลง จ.ระยอง เสียชีวิต

ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพนางพิภาพร นามประภา อายุ 42 ปี ปัจจุบันเป็นพนักงานขายรถยนต์ยี่ห้อดัง ในอ.แกลง จ.ระยอง เป็นภรรยาของ ร.ต.อ.ประดิษฐ์ นามประภา รองสวป.สภ.แกลง ระยอง

ต่อมาเมื่อเข้าไปตรวจภายในห้องพักแฟลตเกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย คือบุตรสาวของผู้เสียชีวิต ชื่อ ด.ญ.พิณพร นามประภา อายุ 14 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.2 ถูกยิงเสียชีวิต

จากการสอบสวน เบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ร.ต.อ.ประดิษฐ์ สามีและบิดาของผู้เสียชีวิต ได้ออกเวรเข้าไปในห้องพัก ยังพบว่า ผู้เสียชีวิตทั้งสองคนยังนอนอยู่ภายในห้องพัก จึงเปลี่ยนเสื้อผ้าแขวนอาวุธปืนขนาด 9 มม.ไว้ในห้อง และ เข้าไปนอนพักผ่อนที่ห้องอีกห้องหนึ่งตามปกติคนเดียว

จนกระทั่ง เมื่อช่วงเช้าได้ยินเสียงดังตรงหน้าแฟลตจึงลงมาดู พบว่าภรรยาของตนเองตกลงมาเสียชีวิต เสียใจจนช็อก แล้วก็รีบเดินกลับเข้าไปในห้องแล้วรีบเข้าไปดูห้องบุตรสาว ก็ถึงกับช็อกอีกรอบ ร้องไห้ด้วยความเสียใจลั่นห้อง เพราะบุตรสาวเสียชีวิตแล้ว

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยินเสียงจึงรีบวิ่งเข้าตรวจสอบทันที จึงพบบุตรสาวอยู่บนที่นอน เป็นจังหวะที่ ร.ต.อ ประดิษฐ์ หยิบปืนขึ้นมาเตรียมจ่อยิงที่ศีรษะ เจ้าหน้าที่จึงรีบช่วยห้าม และแย่งปืนมาได้ ก่อนจะแยกพาไปควบคุมสติอารมณ์

ด้านเพื่อนตำรวจ ต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และ ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุร้ายแบบนี้กับครอบครัวนี้ เพราะเป็นครอบครัวอบอุ่น ไม่เคยมีการทะเลาะรุนแรง จึงแปลกใจถึงการตัดสินก่อเหตุครั้งนี้

ส่วนเพื่อนพนักงาน ศูนย์รถยนต์ที่ผู้เสียชีวิตทำงานอยู่ ได้เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตยังทำงานปกติ ยังพูดคุยเล่นเหมือนทุกวัน ไม่มีลางบอกเหตุว่ามีความเครียด เท่าที่ทราบจะมีเรื่องหนี้สินที่ผู้เสียชีวิตมักจะเปรยกับเพื่อนร่วมงาน และ อีกเรื่องคือ เพื่อนร่วมงานรายหนึ่งได้ฝากเงินจำนวน 70,000 บาท ไว้กับผู้เสียชีวิต และได้บอกกับผู้เสียชีวิตว่าจะใช้เงินไปซื้อรถ แต่ไม่ได้กำหนดวันว่าจะใช้วันไหน

แต่ผู้เสียชีวิตรับปากว่าจะนำมาให้ในวันที่ 4 พ.ย.64 จึงอาจจะเป็นอีกหนึ่งประเด็นความเครียด ที่ผู้เสียชีวิตอาจจะหาเงินไม่ทัน เลยคิดสั้น ส่วนสาเหตุที่ต้องก่อเหตุปลิดชีพบุตรสาวด้วย อาจจะเกิดจากที่ผู้เสียชีวิตเคยพูดให้ฟังบ่อยครั้งว่า แม่ไปอยู่ไหนจะขออยู่กับแม่ด้วย ไม่ว่าจะไปไหนก็ตาม

ทีมข่าวได้พูดคุยกับผู้จัดการของผู้เสียชีวิต เปิดใจว่า ตนทำงานกับผู้ตายมานานกว่า 7 ปี โดยผู้ตายทำงานตำแหน่งฝ่ายบัญชี ที่ผ่านมายืนยันว่าผู้ตายไม่เคยมีพฤติกรรมทุจริตทางการเงิน หรือมีการยักยอกเงินใดๆ เลย ซึ่งทุกๆเย็น ก่อนเลิกงานผู้ตายจะทำบัญชีกับตนตลอด

ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่เคยระแคะระคาย หรือได้ยินว่าผู้ตายมีปัญหาใด เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว รวมถึงประเด็นเงิน 70,000 บาทนั้น ตนก็ไม่ทราบ และปัญหาต่างๆ ก็ไม่เคยได้ยิน เพราะเท่าที่เจอกันทุกวัน ผู้ตายก็ยังพูดคุย หยอกล้อกันตามปกติ รวมถึงเมื่อวานตอนเย็นที่เจอกัน ผู้ตายก็ยังมีท่าทีปกติ ไม่มีใครในบริษัทสังเกตเห็นความผิดปกติใดๆ ทั้งสิ้น

อุปนิสัยของผู้ตายเป็นคนที่น่ารักมาก ทำงานดี เป็นคนสุจริต และไม่เคยได้ยินปัญหาครอบครัว เพราะที่ผ่านมาผู้ตายมักจะพูดถึง 2 สิ่ง คือ เรื่องสุนัข และเรื่องลูกสาว ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ตายรักมาก และผูกพันที่สุด

ด้านญาติของผู้ตายคาดว่า ปมสาเหตุการเสียชีวิต เป็นเรื่องของหนี้สิน เพราะเคยมีการโทรศัพท์ไปขอความช่วยเหลือกับทางบ้านอยู่หลายครั้ง และทางบ้านก็เคยช่วยมาเป็นเงินหลักหมื่น และช่วยเหลือมาประมาณ 1 ปีแล้ว แต่ตนก็ไม่ทราบว่าเป็นหนี้สินเกี่ยวกับเรื่องใด แต่ยืนยันว่าไม่มีเรื่องการทะเลาะกับสามี

ส่วนตัวรู้สึกตกใจไม่คิดว่าจะคิดสั้นแบบนี้เพราะทางบ้านก็ให้ความช่วยเหลือมาโดยตลอด เคยมีการสอบถามว่าเป็นหนี้อะไรแต่ก็ไม่บอก บอกเพียงว่ามีหนี้สิน

ทางด้านสามีของผู้เสียชีวิต ยังอยู่ในอาการโศกเศร้า และไม่พร้อมพูดคุยกับใคร มีแต่การรำพึงรำพัน และร้องไห้ว่าสูญเสียภรรยาและลูกไปแล้ว โดยมีเพื่อนตำรวจมาคอยอยู่เป็นเพื่อน และให้กำลังใจเพราะเกรงว่าจะคิดสั้น และพยามปลอบใจ

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/s8-Ie6X6TOc