ลูกจ้างร้อง ป.ป.ท. ถูกผู้บริหารยักยอกเงินเดือน สวมชื่อทำนิติกรรมอำพราง

สังคม

ลูกจ้างร้อง ป.ป.ท. ถูกผู้บริหารยักยอกเงินเดือน สวมชื่อทำนิติกรรมอำพราง

โดย pattraporn_a

4 พ.ย. 2564

1.2K views

ป.ป.ท. เขต 1 ลงพื้นที่ตรวจสอบ หลังลูกจ้างศูนย์วิจัยและพัฒนาเมล็ดพันธุ์พืช จ.ลพบุรี ส่งจดหมายลับร้องเรียน ถูกผู้บริหาร และพวก ร่วมกันยักยอกเงินเดือน บางรายถูกนำชื่อสวมเป็นคู่สัญญารัฐฯ รับจ้างเหมา




(4 พ.ย.) ข่าว 3 มิติ ลงพื้นที่ร่วมกับ ป.ป.ท.เขต 1 ตรวจสอบกรณีที่ลูกจ้างศูนย์วิจัยและพัฒนาเมล็ดพันธุ์พืชลพบุรี ที่ส่งจดหมายลับร้องเรียน ว่าถูกผู้บริหารและพวกร่วมกันยักยอกและเบียดบังเองเงินเดือนไปทุกเดือน โดยจะยึดสมุดบัญชีและบัตรเอทีเอ็มไว้ พอสิ้นเดือนให้ไปลงชื่อเซ็นต์รับเงิน จะเห็นยอดเงิน 9,000 บาท แต่กลับได้รับจริงคนละ 7,000 บาท บางคนถูกนำชื่อไปสวมในสัญญารับจ้างและผู้ขายโดยที่เจ้าตัวไม่รับทราบมาก่อน แล้วถูกสรรพากรเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง


โดยบัญชีรายชื่อลูกจ้างประจำศูนย์วิจัยและพัฒนาเมล็ดพันธุ์พืชลพบุรี ที่พนักงานสอบสวน ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐเขต 1 เรียกสอบปากคำก่อนสรุปความเห็นมีมูลความผิดจริงหรือไม่


เริ่มต้นเมื่อ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.เขต1 ที่ นำโดยนายธนวัฒน์ สนิทศักดิ์ดี ในฐานะผู้อำนวยการ พร้อมพนักงานสอบสวน และกอ.รมน.ลพบุรี ร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งพบว่า ลูกจ้างหลายคนถูกขู่ห้ามมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ และหลังจากนั้นจึงให้คนนำบัตรเอทีเอ็มและสมุดบัญชีมาคืนให้


ซึ่งจากสมุดบัญชีของลูกจ้างอีกคนหนึ่ง ที่เพิ่งได้รับคืนมาไม่กี่วัน จึงเห็นเพียงยอดเงินที่เปิดบัญชีไว้เท่านั้น หลังบัตรยังเขียนกำกับชื่อเจ้าของตัวจริงไว้ด้วย 


เช่นเดียวกับลูกจ้างหญิงอีกคนหนึ่ง ซึ่งระบุว่า นอกจากได้เงินไม่ครบตามที่เซ็นรับแล้ว หากขาดงานยังถูกหักอีกวันละ 300 บาท และก่อนหน้านี้ เคยถูกนำชื่อไปสวมเป็นผู้รับจ้างเหมางานกับหน่วยงานราชการด้วยจนสรรพากรเรียกภาษีย้อนหลังหลายแสนบาท ทำให้ผู้บริหารศูนย์ที่ถูกร้องเรียนต้องไปชำระให้


ส่วนชายอีกคนหนึ่ง ยอมรับว่า ทำหน้าที่ไปกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มในวันเงินเดือนออก เพื่อให้ฝ่ายการเงิน จ่ายให้ลูกจ้าง ยืนยันว่าทำมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว



ทั้งนี้ ระหว่างการสอบปากคำลูกจ้าง ผู้อำนวยการศูนย์ดังกล่าวได้ไปร่วมสังเกตการณ์อยู่นอกห้องประชุม แต่ไม่สมัครให้สัมภาษณ์ แจ้งว่ายังไม่ได้รับอนุญาติจากผู้บริหารในกรมวิชาการเกษตร ด้าน นายธนวัฒน์ ชี้แจงว่า จะสอบสวนอย่างเป็นธรรมและยึดพยานหลักฐานที่ได้ แต่เบื้องต้นลูกจ้างให้ข้อมูลสอดคล้องกันว่าการร้องเรียนดังกล่าวมีมูลจริง


ล่าสุด มีความเห็นชี้มูลความผิดผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาเมล็ดพันธุ์พืชลพบุรี ในมาตรการ 147 และ 157 ปฎิบัติหน้าที่มิชอบ ใช้อำนาจหลอกลวง บังคับให้คนส่งมอบบัตรเอทีเอ็มพร้อมยึดสมุดบัญชี และมาตรการ 162 จัดจ้างอันเป็นเท็จ ใช้ชื่อคนงานสวมเป็นผู้รับจ้างและผู้ขายโดยไม่ได้ทำเอง ซึ่งเข้าข่ายเป็นนิติกรรมอำพราง


และเมื่อลองให้เจ้าของบัญชีรายแรกไปอัพเดทสมุดที่ธนาคาร พบยอดเงินเข้าไม่ถึงปีกว่า 2 แสนบาท จึงถือว่าเป็นเพียงการเริ่มต้นการสอบสวนทางวินัย กรณีเจ้าหน้าที่ถูกกล่าหาทุจริตต่อหน้าที่เท่านั้น 




คุณอาจสนใจ

Related News