ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ เหลือเพียงกิโลกรัมละ 5 บาท จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าทำไมราคาข้าว ถึงลดลงต่ำกว่าราคาอาหารสัตว์ เเละบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ล่าสุด ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้นำเรื่องนี้ไปตั้งกระทู้ถามสดเเละหว่านข้าวในสภา

(4 พ.ย.) การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีการพิจารณากระทู้สด 3 กระทู้ หนึ่งในนั้นเป็นเรื่องปัญหาราคาข้าวตกต่ำ โดย นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้ถาม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แต่ปรากฎว่ารัฐมนตรีฯ ที่เกี่ยวข้อง ขอเลื่อนตอบกระทู้ทั้ง 3 เรื่อง

โดยให้เหตุผลติดประชุมคณะรัฐมนตรี ทำให้ ส.ส.ฝ่ายค้านบางส่วน แสดงความไม่พอใจ จากนั้น นายพิเชษฐ์ บอกว่า วันนี้เอาข้าวเปลือกมา กิโลกรัมละ 5 บาท ไม่ต้องเอากลับบ้าน จึงหว่านข้าวสารและข้าวเปลือกกลางห้องประชุมสภาฯ

ต่อมา นายจุรินทร์ ได้ชี้เเจงเรื่องนี้ว่า ที่ราคาข้าวตกต่ำ เป็นเพราะส่งออกข้าวได้น้อย และที่ผ่านมาค่าเงินบาทแข็งตัว ทำให้ไม่สามารถทำราคาได้ถูกกว่า ราคาของประเทศคู่แข่งได้ แต่ตอนนี้ค่าเงินบาทอ่อนตัวลงแล้ว สถานการณ์เริ่มดีขึ้น

ขณะเดียวกันมีมาตรการให้โรงสี และสหกรณ์เก็บข้าวไว้ โดยจะสนับสนุนเงินชดเชย ตันละ 1,500 บาท และหากราคาข้าวต่ำกว่าราคาประกัน ก็จะได้รับเงินส่วนต่างจากการประกันราคาด้วย

ส่วนที่เชียงราย วันนี้มีชาวนา 18 อำเภอ รวมตัวไปที่ศาลากลางจังหวัด เรียกร้องให้รัฐบาลช่วยพยุงราคาข้าวเหนียวสด ความชื้นไม่เกิน 25% ในราคา 10 บาท และข้าวเปลือกจ้าว ในราคา 9 บาทต่อกิโลกรัม หลังราคาข้าวตกต่ำอย่างหนัก เหลือราคากิโลกรัมละ 5.70-5.80 บาท ในขณะที่ต้นทุนการผลิตต่อไร่ สูงถึง 4,500-5,000 บาท

ทำให้ชาวนามีรายได้ไม่พอกิน หรือเพียงพอจะไปชำระหนี้ได้ โดยเห็นว่าราคาที่เกษตรกรจะอยู่รอดได้ ก็คือ กิโลกรัมละ 7-8 บาทขึ้นไป หากรวมกับค่าชดเชยจากเงินประกันรายได้ข้าว ก็จะได้กิโลกรัมละ 9-10 บาท

โดยข้อมูลราคาข้าวอ้างอิงจาก กรมการค้าภายใน ราคาข้าวเปลือก-ข้าวสาร ตอนนี้ ข้าวเปลือกหอมมะลิ สูงสุดเป็นข้าวจากอุบลราชธานี 11,500 บาทต่อตัน ต่ำสุดเป็นข้าวเปลือกหอมมะลิจากอุดรธานี อยู่ที่ 8,400 บาทต่อตัน ส่วนข้าวสารบรรจุถุง ขนาด 5 กิโลกรัม สูงสุดเป็นข้าวหอมมะลิ 100 % ราคาถุงละ 269 บาท ต่ำสุดเป็นข้าวขาว 100% จำหน่ายอยู่ที่ราคาถุงละ 85 บาท