ตั้งสอบ "สารวัตร" ขี่นำรถ "หมอบุญ" สาวเจ้าของคลิปรับผวา ไม่กล้าขับรถแล้ว

สังคม

ตั้งสอบ "สารวัตร" ขี่นำรถ "หมอบุญ" สาวเจ้าของคลิปรับผวา ไม่กล้าขับรถแล้ว

โดย pattraporn_a

4 พ.ย. 2564

172 views

กรณีเมื่อวานนี้ เฟซบุ๊กแฟนเพจ "อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 2" โพสต์คลิปจากกล้องหน้ารถคันหนึ่งความยาว 2.08 นาที โดยกล้องหน้ารถ ระบุวันเกิดเหตุ 3 พ.ย. เวลา 08.21น. เห็นถนน 2 เลน สวนทางกัน เจ้าของรถขับมาฝั่งริมถนน (ป้ายระบุ สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์) มีรถจักรยานยนต์ตำรวจ ขับสวนมา



โดยมีเสียงเจ้าของคลิปพูดว่า "ไม่หลบได้ไหมเนี่ย โอ้โห ไม่ ไม่หลบ ไม่หลบ เพราะนี่เป็นทางที่เราไป ไม่หลบ ไม่หลบ " จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ขับมอเตอร์ไซค์ตำรวจได้ใช้มือขวาโบกให้รถเธอหยุด และหลบรถเบนซ์สีขาวคันหนึ่งที่กำลังขับสวนเลนมา และเปิดไฟผ่าหมาก


ต่อมามีเสียงเคาะกระจกดังขึ้น เจ้าของรถได้บอกกับตำรวจจราจรว่า "คุณนี่มันทางรถอะไรนี่ ทำไมถึงสวนมา" ตำรวจจราจร ตอบว่า "เข้าใจๆ ผมไม่ได้ว่าอะไร กำลังอำนวยการจราจรอยู่ครับ ผมไม่ได้ว่าอะไรคุณนะ "


จากนั้นเจ้าของคลิปได้บีบแตรใส่รถเบนซ์ที่สวนมา จนตำรวจจราจรนายดังกล่าว แล รถเบนซ์สีขาวต้องหลบเข้าอีกเลนหนึ่งแทน เธอจึงขับรถไปตามเลนที่เธออยู่ต่อไป


เมื่อเธอขับต่อไปกลับพบว่า มีรถอีกหลายคันวิ่งสวนเลนมา จนเธอต้องบ่นในรถต่อว่า พร้อมบีบแตรรถอีก 1 ครั้ง "ดูรูปสิ ก็ปิดทางไปเลย โอ้โห กี่คันวะเนี่ย โอ้โหสุดยอด สุดติ่งจริงๆ" โดยเธอขับรถฝ่า รถยนต์ และ มอเตอร์ไซค์ในเลนฝั่งเธอนับสิบคัน


เมื่อคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป มีคนเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ชื่นชม และ สะใจ ที่เจ้าของคลิปที่ไม่ยอมหลบให้วีไอพีเบนซ์สีขาว ขณะที่บางคนก็ตำหนิว่าเธอเองนั่นแหละขับผิดเลน เพราะช่วงเวลาเร่งด่วน ถนนเส้นนี้จะปรับมาใช้วิ่งทางเดียว (One way) ทั้งสองเลน จะขับสวนตามที่เธอเข้าใจไม่ได้


ส่วนเจ้าของรถเบนซ์สีขาว ที่โซเซียลระบุว่าเป็นรถของหมอบุญ นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป และเมื่อเวลา 9.30 น. (4 พ.ย.) หมอบุญให้สัมภาษณ์ยอมรับกับทีมข่าวว่า เป็นรถของหมอบุญจริง


โดยระบุว่า ในวันเกิดเหตุเขานั่งอยู่ในรถ ซึ่งคนขับได้วิ่งมาในเส้นทางที่ถูกต้องในชั่วโมงเร่งด่วน และใช้เส้นทางนี้มาเป็น 30 ปี จากบ้านซอยสุขุมวิท 47 เลี่ยงรถติดเพื่อไปทำงานที่บริษัทย่านอสมท. พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้มีตำรวจนำขบวน เพียงแต่มาทำหน้าที่ ในช่วงจังหวะเวลานั้นพอดี ยอมรับว่าที่ผ่านมาเคยใช้รถตำรวจนำขบวนบ้าง ปีละ 2-3 ครั้ง ขณะไปประชุมกับบรรดารัฐมนตรีในช่วงเวลาที่รถติด


ขณะที่ทางด้าน พลตำรวจตรี จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุรถจักรยานยนต์ของตำรวจจราจร สน.มักกะสัน ที่ขี่มาเป็นคันแรก ได้รับแจ้งว่ามีภารกิจเร่งด่วนจากรถจักรยานยนต์ตำรวจ สน.ทองหล่อ ที่ขี่ตามมา จึงขับย้อนศรเพื่อไปปิดเส้นทางให้ ซึ่งขณะนี้มีคำสั่งให้ สน.ทองหล่อตรวจสอบแล้วว่า เป็นการขอรถนำขบวนจริงหรือไม่ มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนใด ได้ขอถูกต้องตามระเบียบไหม


พร้อมยอมรับว่า สาเหตุของเรื่องดังกล่าวเกิดจากความบกพร่องของตำรวจจราจร ที่ไม่มีติดป้ายเตือนการใช้รถทางเดียว หรือไม่ได้ติดตั้งรั้วกั้นหรือกรวยยางในช่วงเวลาดังกล่าว ทำให้ประชาชนที่ใช้ทางเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า เปิดเส้นทางจราจรตามปกติ


ส่วน พันตำรวจเอก ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผู้กำกับการ สน.ทองหล่อ ตั้งกรรมการสอบสวนกรณี ตำรวจสังกัด สน.ทองหล่อ นายหนึ่ง ขี่รถไปนำขบวนให้กับนายแพทย์บุญแล้ว โดยมอบหมายให้ พันตำรวจโทณรงค์วิช สุดกังวาล รองผู้กำกับจราจร สน.ทองหล่อ เป็นหัวหน้าคณะการสอบสวน


มีรายงานว่าตำรวจที่ปรากฎในคลิปคือ พันตำรวจตรี สังเวียน คำรังษี สารวัตรจราจร สน.ทองหล่อ คาดว่าเจ้าตัวจะเข้ามาให้ข้อมูลพรุ่งนี้ที่ สน.ทองหล่อ เนื่องจากวันนี้ลาราชการ ซึ่งหากพบว่ากระทำการโดยพละการ ไม่มีหนังสืออนุญาตหรือหนังสือคำสั่ง ถือว่ามีความผิด แต่อาจจะเข้าข่ายผิดวินัยไม่ร้าย ซึ่งจะมีโทษตั้งแต่ ภาคทัณฑ์ , ทัณฑกรรม ,กักยาม , กักขัง และตัดเงินเดือน


ต่อมาในช่วงบ่าย (13.48 น.) ทีมข่าวได้สอบถามหมอบุญอีกครั้ง ถึงเหตุที่ บชน.สั่งให้ผกก.สน.ทองหล่อตรวจสอบข้อเท็จจริง เหตุใดตำรวจจราจรไปนำขบวนรถเบนซ์ โดย หมอบุญ ได้ ย้ำอีกครั้งว่า ไม่ได้ใช้รถตำรวจนำขบวน และไม่มีเหตุฉุกเฉิน เป็นมาทำงานปกติประจำวัน ซึ่งก็ไม่ได้ขับออกมาพร้อมกันจากบ้านที่สุขุมวิท ซึ่งเขาไม่สามารถขอรถราชการได้อยู่แล้ว



แต่ยอมรับว่า เมื่อก่อนนานมาแล้วหลายปี ขณะเป็นที่ปรึกษารองนายกฯและที่ปรึกษารัฐมนตรีหลายกระทรวง ได้ขอใช้รถตำรวจนำขบวนระหว่างร่วมประชุมกับรัฐมนตรี โดยตำรวจได้เรียกคนขับรถไปให้ปากคำแล้ว ซึ่งได้บอก ให้การไปตามความจริง และมองว่า ก็เรื่องธรรมดา


ขณะที่ทางด้าน สาววัย 29 ปี ที่ขับรถสวนรถหมอบุญ เปิดใจกับทีมข่าวว่า หลังคลิปขับรถสวนเลนถูกแชร์ต่อในโลกโซเชียลจนดัง เธอบอกว่าในคลิปที่เธอบอกว่าไม่หลบๆ เพราะเธอไม่รู้จะหลบไปทางไหน ซึ่งขณะที่เธอขับรถมาเจอรถตำรวจคันแรก ก็ส่งสัญญาณมือพยายามบอกให้เธอหลบชิดซ้ายๆ ตอนนั้นก็ตกใจ ก็ไม่รู้จะหลบไปทางไหน ก็เลยขับต่อไป เจอรถตำรวจคันที่ 2 ซึ่งตำรวจนายนี้ได้เคาะกระโปรงรถเธอก็เลยเอากระจกลง และบอกว่าเปิดเลนอะไรมาแบบนี้


เธอชี้แจงว่าขณะนั้นมีรถยนต์ขับตามหลังเธอมาด้วยไม่ใช่รถเธอแค่คันเดียว ซึ่งถนนเส้นนี้เธอใช้มานาน 2 เดือนแล้วช่วงสถาการณ์โควิดระบาด เริ่มจากเธอเห็นรถคันอื่นเลี้ยวใช้เส้นทางนี้ก็เลยใช้ตามโดยไม่ได้คิดอะไร เพราะเส้นทางนี้สามารถช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางไปทำงานตอนเช้า ได้ประมาณ 10 นาที


เมื่อถามว่าทราบหรือยังว่าคู่กรณีคู่ หมอบุญ นั่งอยู่ในรถเบนซ์คันดังกล่าว เธอบอกว่าเอาจริงๆ เธอไม่ได้รู้จัก จนกระทั่งเพื่อนส่งข่าวมาให้ดูถึงรู้ ซึ่งตอนนี้เธอยังไม่ทราบข่าวว่าตำรวจจะมีการเชิญตัวไปพูดคุย แต่ยอมรับว่าตอนนี้รู้สึกกลัว ไม่กล้าขับรถแล้วและคิดว่าจะหยุดขับรถไปสักพักก่อน


ทั้งนี้ ตามระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก ที่คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบ เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2540 และ 23 ธันวาคม 2540 ระบุว่า ผู้ที่จะมีรถตำรวจนำขบวนเป็นประจำได้ คือ

- พระบรมวงศานุวงศ์

- สมเด็จพระสังฆราช

- ประธานองคมนตรี

- นายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา รัฐบุรุษ องคมนตรี ประธานวุฒิสภา ประธานศาลรัฐธรรมนูญ และประธานศาลปกครองสูงสุด

- รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้นำฝ่ายค้าน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รัฐมนตรีช่วยว่าการ ประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรของฝ่ายบริหาร

- อดีตนายกรัฐมนตรีที่พ้นตำแหน่งแล้ว


ส่วนผู้แทนพระองค์ พระราชอาคันตุกะ ผู้นำทางศาสนาอื่น สมเด็จพระราชาคณะ ประมุขรัฐต่างประเทศ ผู้นำรัฐบาลต่างประเทศ และเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ และข้าราชการประจำตั้งแต่ปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่าขึ้นไป สามารถขอใช้รถนำขบวนได้เป็นครั้งคราว แต่หลักเกณฑ์สำคัญ คือ ใช้เฉพาะเพื่อการเดินทางไปราชการเท่านั้น ไม่ควรใช้ในกิจส่วนตัว


ซึ่งการรถนำขบวนต้องแจ้งล่วงหน้า พร้อมกำหนดการไปยัง กองบังคับการตำรวจจราจร โดยผู้บังคับการตำรวจจราจรจะเป็นผู้พิจารณาอนุมัติ ยกเว้นเป็นการขอรถฉุกเฉินของประชาชนจากกรณีเร่งด่วนฉุกเฉิน เช่น อาการเจ็บป่วย อุบัติเหตุ สามารถประสานตำรวจท้องที่ได้ทันที


แต่ถ้าเป็นกรณีที่ต้องการขอรถนำขบวนเพื่อกิจการงานพิเศษก็ต้องทำหนังสือล่วงหน้าเข้ามาที่กองบังคับการตำรวจจราจรเหมือนกัน



ชมผ่านยูทูบ :   https://youtu.be/IPMUnJVEWr0

คุณอาจสนใจ