ภาพรวม 3 วันแรก "เปิดประเทศ" มีผู้เดินทางเข้าไทย 4,510 คน ยังไม่พบติดโควิด

สังคม

ภาพรวม 3 วันแรก "เปิดประเทศ" มีผู้เดินทางเข้าไทย 4,510 คน ยังไม่พบติดโควิด

โดย pattraporn_a

3 พ.ย. 2564

31 views

ผ่านมา 3 วันของการประกาศเปิดประเทศรับผู้เดินทางเข้าประเทศไทยโดยไม่ต้องกักตัว มีผู้เดินทางเข้าไทยแล้วกว่า 4,500 คน ยังไม่พบผู้ติดเชื้อจากกลุ่มนี้ ขณะที่สถานการณ์การติดเชื้อในประเทศ แม้ภาพรวมจะมีผู้ติดเชื้อลดลงอยู่ที่ 7,679 คนต่อวัน แต่ก็มีจังหวัดพื้้นที่นำร่องท่องเที่ยวในกลุ่มสีฟ้าที่ต้องจับตา หลังเชียงใหม่ทำสถิติผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดต่อเนื่องในวันนี้ที่เกือบ 500 คน


(3 พ.ย.) ศบค. ยืนยันไทยพบผู้ติดเชื้อวันนี้ 7,679 คน รวมสะสม 1,935,442 คน เสียชีวิตเพิ่ม 56 คน รวมสะสม 19,394 คน โดยภาพรวมหลังการเปิดประเทศมาแล้ว 2 วัน มียอดนักท่องเที่ยวเดินทางผ่านสนามบินสุวรรณภูมิสะสม 4,510 คน 5 อันดับแรกคือ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เยอรมนี การ์ตาและจีน


แพทย์หญิงสุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค ระบุ สถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศแม้ทุกภาคจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อลดลง แต่กลับมีจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวัง ซึ่งเป็นจังหวัดในกลุ่มพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวหรือจังหวัดสีฟ้า นั่นคือจังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่อำเภอเมือง อำเภอแม่ริม อำเภอแม่แตง และอำเภอดอยเต่า ที่ส่วนใหญ่พบการระบาดในชุมชนและครอบครัว รวมทั้งตลาดสด 4 แห่ง คือตลาดเมืองใหม่ ตลาดวโรรส ประตูเชียงใหม่ และสันป่าข่อย


ขณะที่วันนี้เชียงใหม่ทำสถิติยอดผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดที่ 492 คน รวมสะสม 17,833 คน เสียชีวิตสะสม 62 คน โดยได้ดำเนินการฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 1.1 ล้านคน คิดเป็น 65.48 เปอร์เซ็นต์ จากประชากรชาวเชียงใหม่ทั้งหมด 1.7 ล้านคน สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวหรือพื้นที่สีฟ้า 17 จังหวัดทั่วประเทศ มีผู้ได้รับวัคซีนเข็มเเรกเฉลี่ย 77% และยังต้องขอความร่วมมือประชาชนออกมารับวัคซีนมากขึ้น เพื่อครอบคลุมเกิน 80%


นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย ระบุว่า ปัจจุบันมีสถานประกอบการในพื้นที่สีฟ้า ผ่านการประเมิน COVID FREE SETTING แล้ว 3,068 แห่ง คิดเป็นกว่า 96% จากผู้ประกอบการที่มาลงทะเบียนไว้ 3,192 แห่ง โดยประเภทกิจการที่ลงทะเบียนเพื่อรับการประเมินทั้ง ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า สปา เป็นต้น ผู้ที่ผ่านการประเมินจะได้รับสัญลักษณ์ของโครงการติดหน้าร้าน


ส่วนกรณีที่มีการอนุญาตเปิดให้นั่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้านอาหารได้นั้น ผ่านมา 3 วัน พบ 3 ปัจจัยเสี่ยง คือการนั่งดื่มเกินระยะเวลาที่ประกาศอนุญาตจึงอยากขอให้เคร่งครัดในการปฏิบัติตามประกาศของแต่ละจังหวัด


ส่วนปัจจัยที่ 2 คือความแออัดของสถานที่ ที่บางแห่งไม่จำกัดจำนวนคนทำให้ไม่สามารถเว้นระยะห่างได้ตามที่กำหนด และปัจจัยที่ 3 ยังพบประชาชนดื่มเกินจนมึนเมา ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสี่ยงในการละเลยมาตรการ จากนี้จะมีการเฝ้าระวังและสุ่มตรวจสอบเป็นระยะในช่วง 7-14 วัน แล้วจะนำไปประเมินการปฏิบัติว่ามีความเหมาะสมหรือไม่

คุณอาจสนใจ