กลายเป็นดราม่าเดือด เมื่อพระมหาไพรวัลย์ ไลฟ์ร่ำไห้ ประกาศเตรียมสึก หลังพระราชปัญญาสุธี (อุทัย ญาโณทโย) ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง ไม่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็นเจ้าอาวาส

โดยพระมหาไพรวัลย์ ระบุถึงเหตุผลว่า ที่สำคัญที่สุด แม้เพียงตำแหน่งในฐานะของเจ้าอาวาส หากมิได้พระภิกษุผู้ที่เป็นรัตตัญญู หรือมีพรหมวิหารธรรมอย่างมากพอในการจัดการดูแล ไม่ได้ผู้ซึ่งมีที่มาที่ชอบธรรมหรือเป็นที่ยอมรับนับถือของสังฆะทั้งหมดในอาราม พระภิกษุผู้นั้น ถึงที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมภาร ย่อมจะตกอยู่ภายใต้ภยาคติ หรือไม่ก็ลุแก่อำนาจอย่างง่ายๆ ย่อมจะใช้อำนาจนั้น รังแกพระลูกวัดไม่ในทางใดก็ทางหนึ่งก็ได้ ถึงที่ผิดน้อยก็อาจให้ผิดมาก หรือถึงที่ไม่ชอบพอก็อาจไล่พ้นไปจากอาราม เรื่องเหล่านี้มีปรากฎให้เห็นอยู่มากแต่เก่าก่อนทีเดียว

ต่อมาเมื่อวานนี้ (31 ต.ค.) "พระมหาไพรวัลย์" โพสต์เฟซบุ๊ก โดยระบุว่า "อาตมาอาจทำอะไรหลายอย่างไม่เหมาะสม แต่อาตมาไม่เคยนั่งเครื่องบินไปดูบอลต่างประเทศ ไม่เคยทำเดรัจฉานวิชาอย่างเดียรถีย์ ไม่เคยดูโหรทำนายดวงหรือแม้แต่ปลุกเสกต์ผ้ายันต์แม้แต่ครั้งเดียวตั้งแต่บวชมา" ท่ามกลางกำลังใจของผู้ติดตามจำนวนมาก

ทั้งนี้ มีรายงานว่า การประชุมมหาเถระสมาคม หรือ มส.เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้มีมติรับรองการประชุมเสนอแต่งตั้งเจ้าอาวาสพระอารามหลวง 5 รูป โดย 1 ใน 5 มีการเสนอชื่อ พระราชปัญญาสุธี รักษาการให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสร้อยทองด้วย แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีมติออกมา

ทั้งนี้มีรายงานว่า การเสนอชื่อที่ประชุม มส.นัดข้างต้น เป็นกฎหมายเดิม ขณะนี้มีกฎหมายใหม่ที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.คณะสงฆ์

ขณะที่ในโซเชียลมีเดีย มีการแชร์ภาพ ของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ ได้เปิดมูลนิธิป่ารอยต่อ ให้พระครูรูปหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัด ที่ จ.นครศรีธรรมราช เข้าเยี่ยม ซึ่งพระครูรูปดังกล่าวก็ได้มอบของศักดิ์สิทธิ์ต่างๆให้ พลเอกประวิตร มีทั้งพระ ผ้ายันต์ จตุคามรามเทพ เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลด้วย

คนในโซเชียลก็มีการตั้งคำถามเรื่องนี้ เทียบเคียงกับกรณีของพระมหาไพรวัลย์ กับพระมหาสมปอง ว่าแบบนี้เข้าข่ายงมงายหรือไม่ และเหตุใดมีการปฏิบัติที่แตกต่างกัน เมื่อเทียบ กับ 2 พส. ที่ออกมาให้ธรรมะทางออนไลน์ บางคนก็ถามหาความชัดเจนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่าตกลงแล้วมาตรฐานเรื่องนี้อยู่ตรงไหน