ผู้ใช้เฟชบุ๊กชื่อ รัชฎา อ่อนศรี นำคลิปภาพจาก กล้องวงจรปิด บริเวณหน้าร้ายขายของชำแห่งหนึ่ง ในหมู่บ้านหลังเขา หมู่ 7 ต.มวกเหล็ก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี มาเตือนภัย เพื่อให้สื่อโซเชียลแจ้งเบาะแสคนร้าย

โดยจับภาพพฤติกรรมคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 40-45 ปี ขับรถยนต์กระบะ สีขาว ฝาท้ายสีดำขับถอยเข้ามาหน้าร้านค้าของนายปทุม กรรจ์ศรีทอง อายุ 64 ปี เมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา

ก่อนเดินหยิบเอาเชือก ยาวประมาณ 5-10 เมตร ลักษณะทำเป็นบ่วงคล้องไว้ แล้วคนร้ายหยิบเชือกดังกล่าว เอามาคล้องที่ตู้เติมเงิน จากนั้นเดินไปขึ้นรถขับกระชากตู้เติมเงิน จนน็อตยึดที่พื้นปูนขาดกระเด็นลากตู้เติมเงินออกไปได้สำเร็จ

นายปทุม ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ขณะนั้นปิดร้านแล้ว ตนเองนอนอยู่ในห้องกับภรรยา ต้องสะดุ้งตื่น เมื่อได้ยินเสียงโครมคราม ซึ่งตนเองคิดว่ารถชนเสาไฟฟ้าข้างทาง จึงรีบออกมาดูเพื่อช่วยเหลือ แต่กลับพบว่าตู้เติมเงินโทรศัพท์หน้าร้านหายไป ทิ้งไว้เพียงร่องรอยความเสียหาย ขณะนั้นพยายามติดตามคนร้ายไป แต่ไม่ทัน จึง ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด

โดยหลังก่อเหตุคนร้ายขับรถไปทางอำเภอวังม่วง พื้นที่เชื่อมต่อ กับอำเภอมวกเหล็ก ส่วนป้ายทะเบียนรถกระบะไม่ชัดเจน จำได้แค่ว่าสีขาว ส่วนกระบะปิดท้ายสีดำ ทั้งนี้ลักษณะการเดินของคนร้ายมีความผิดปกติ ไม่เหมือนลักษณะการเดินทั่วไป รุ่งเช้าตนเองจึงนำหลักฐานเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.มวกเหล็ก ให้ติดตามคนร้ายดังกล่าวมาดำเนินคดี

นายปทุม ยังเปิดเผยต่ออีกว่า คืนเดียวกัน ร้านค้าที่อยู่ใกล้เคียงกันอีก 2 ร้านถูกคนร้ายรายเดียวกัน ใช้รถกระบะ และเชือกกระชากตู้เติมเงิน รวมทั้งของตนเอง เป็น 3 ราย แต่คนร้ายได้ตู้เติมเงินโทรศัพท์ไปได้แค่ 2 ตู้ ส่วนทรัพย์สินในตู้มีเงินอยู่ประมาณ 5,000 บาท พร้อมบัตรเติมเงินอีกกว่า 1,000 บาท แต่ที่เสียดาย คือตู้ดังกล่าว เนื่องจากตนเอง ซื้อมา ในราคา 42,000 บาท รวมเสียหายทั้งหม เกือบ 50,000 บาท

ต่อมา ตู้ที่ถูกคนร้ายขโมยไป มีชาวบ้านในพื้นที่ อำเภอวังม่วง ไปพบถูกทิ้งไว้ในป่าละเมาะข้างทาง โดยคนร้ายลากตู้เติมเงินหลบหนีไปทาง 3 แยก เพื่อจะไปเชื่อมต่อถนนเส้นทางไปอำเภอมวกเหล็ก และอำเภอวังม่วง

ล่าสุด ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน สภ.มวกเหล็ก ได้ภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณ 3 แยกดังกล่าว อีกทั้งเบาะแสเส้นทางคนร้ายใช้หลบหนี คาดว่าคนร้ายอาศัยอยู่ บริเวณตะเข็บรอยต่อระหว่าง อำเภอวังม่วง จังหวัดสระบุรี และอำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะนำตู้เติมเงินโทรศัพท์ ที่คนร้ายทิ้งไว้ ไปตรวจพิสูจน์หาลายนิ้วมือแฝงพร้อมทั้งดีเอ็นเอของคนร้าย คาดว่าน่าจะได้ตัวมาดำเนินคดีเร็วๆ นี้

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/k7gGKQV7aPY