'พระสุนิตร' ยอมกลับวัดต้นสังกัดวังสามหมอ หลังเจ้าคณะอำเภอขู่จับสึก ปมทำหญิงเชื่อการละสังขาร

สังคม

'พระสุนิตร' ยอมกลับวัดต้นสังกัดวังสามหมอ หลังเจ้าคณะอำเภอขู่จับสึก ปมทำหญิงเชื่อการละสังขาร

โดย weerawit_c

31 ต.ค. 2564

348 views

กรณีนายสันติ อายุ 33 ปี เข้าร้องเรียน ‘หมอปลา’ ให้ช่วยเหลือนางสาวณัชพร อายุ 49 ปี ผู้เป็นแม่ ที่มีความคิดความเชื่อหลังไปปฏิบัติธรรมที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่งในจังหวัดอุดรธานี แล้วเชื่อว่าขณะนี้ได้เพียรอุทิศตน จนบรรลุถึงชั้นอรหันต์แล้ว และในร่างมีองค์อยู่ 2 เทพ คือพระอะริยเจ้า ส่วนองค์ที่สองคือพระลูกแก้ว และในการเพียรปฏิบัติธรรม นางสาวณัชพร บอกกับทุกๆคนว่า จะต้องนิพพาน และกำหนดวันตายของตัวเองไว้ในวันที่ 30 ตุลาคม 2564 และเมื่อตายไปแล้ว จะต้องเอาศพไปบรรจุไว้ในโลงแก้ว ที่ตนได้นำเงินส่วนตัวไปถวายสำนักสงฆ์ ก่อนที่ทางสำนักสงฆ์จะนำเงินไปสร้างโลงแก้วเอาไว้ให้นั้น


ถึงกำหนดเวลาที่นางสาวณัชพร เชื่อว่าจะต้องละสังขาร หรือวันที่นางสาวณัชพรบอกว่าตัวเองจะต้องตาย วันนี้จึงปรากฏสื่อหลายสำนัก ต่างมาติดตามบรรยากาศที่บ้านของนางสาวณัชพร


ครอบครัวนางสาวณัชพร ไม่อนุญาตให้ทีมข่าวและสื่อจากสำนักอื่นๆทุกสำนักเข้าไปสังเกตการณ์ โดยให้รออยู่แค่ประตูหน้าหมู่บ้านเท่านั้น และจากการสังเกตการณ์ความเคลื่อนไหวภายในหมู่บ้าน ยังมีเพียงรถของนายสันติลูกชายคนโต ที่จอดอยู่ และคอยดูแลนางสาวณัชพรผู้เป็นแม่อยู่ภายในบ้านเท่านั้น


นายสันติ ได้ให้ข้อมูลกับทีมข่าวทางโทรศัพท์ว่า แม่คือนางสาวณัชพร ตอนนี้ยังปกติ แม่ตื่นมาสวดมนต์ และนั่งสมาธิทำพิธีตั้งแต่ช่วงตี 4 และแม่ได้คุยกับทางพระที่จังหวัดอุดรธานี โดยมีการประสานข้อมูลกัน และพระที่จังหวัดอุดรธานีก็พร้อมที่จะเดินทางมาหาที่นี่ทันทีหากถึงเวลา ตนยอมรับว่ากังวลและห่วงแม่จะเสียชีวิตจริงๆ จึงอยากให้สื่อช่วยกันประสานรถพยาบาลให้มารับตัวแม่ เพื่อพาตัวแม่ไปอยู่ในความดูแลของแพทย์ และจะได้ไม่ต้องเจอกับพระที่จะเดินทางมาจากจังหวัดอุดรธานี หากทางนั้นมีการเดินทางมาจริง


ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี ว่า พระสุนิตร อินทะคุตโต เจ้าสำนักสงฆ์ซำป่าหัน ได้เดินทางกลับมาที่สำนักสงฆ์ หลังจากเมื่อช่วงเช้าได้ออกจากวัดไป โดยพบว่ามีรถกระบะเข้ามารับและทราบว่าจะเดินทางไปจังหวัดสมุทรสาครเพื่อไปพบนางสาวณัชพร โดยฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าคณะอำเภอและคณะสงฆ์ที่มีมติห้ามไม่ให้ออกจากพื้นที่และให้เดินทางกลับไปอยู่ที่วัดต้นสังกัดที่อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี


กระทั่งพระอาจารย์มหาสายัน อภิปุณโย เจ้าอาวาสวัดอณารโญภูค้อ บ้านดงกลาง และเป็นเจ้าคณะอำเภอวังสามหมอ ซึ่งเป็นพระวัดต้นสังกัด พร้อมคณะประกอบด้วย นายรักษ์ศักดิ์ เทียนไชย นายอำเภอกู่แก้ว กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้เดินทางมาที่สำนักสงฆ์ และได้พูดคุยเจรจากับพระอาจารย์สุนิตร โดยระบุว่าพระอาจารย์สุนิตรฝ่าฝืนคำสั่งคณะสงฆ์โดยได้เดินทางออกไปนอกพื้นที่ และฝ่าฝืนมติคณะกรรมการสงฆ์ 4 ข้อ คือ


1.ให้พระสุนิตรกลับไปรายงานตัวที่สังกัดวัดเดิมที่อ.วังสามหมอ

2.ไม่ให้พระสุนิตรไม่ไปเกี่ยวข้องบุคคลที่เป็นข่าวหรือมีพฤติกรรมที่จะหลบหนีจากสำนักที่อยู่

3.เพื่อไม่ให้วุ่นวายมากขึ้นต่อจากนี้ไปห้ามสัมภาษณ์ใดๆ ต่อสื่อมวลชน

4.หากพระสุนิตรไม่ปฏิบัติตามมติที่ประชุมของคณะกรรมการสงฆ์ โดยห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับบุคคลและสถานที่ที่มติสงฆ์ได้สั่งห้าม หรือพระสุนิตรขัดคำสั่งเจ้าคณะผู้ปกครองไม่เอื้อเฟื้อต่อพระธรรมวินัย


คณะกรรมการสงฆ์ ได้มอบหมายให้เจ้าคณะผู้ปกครองต้นสังกัดดำเนินการตัดสินโทษตามความเหมาะสมโดยมีคำสั่งให้พ้นสังกัดวัดเดิมและไม่รับรองสถานภาพความเป็นพระภิกษุ โดยหลังจากที่พูดคุยกันพระอาจารย์สุนิตรยอมที่จะเดินทางไปวัดต้นสังกัดแต่โดยดี


จากนั้นในเวลา 18.50 น. พระอาจารย์สุนิตร ได้ยอมเดินทางกลับไปที่วัดต้นสังกัด โดยมีพระมหาสายัณฆ์ อภิปุณโญ เจ้าอาวาสวัดอนัญโญภูค้อ เดินทางมารับถึงสำนักสงฆ์ด้วยตัวเอง โดยพระอาจารย์สุนิตรไม่ได้อิดออดหรือขัดขืนแต่อย่างใดแต่ยอมเดินทางตามไปด้วยดี มีการเก็บข้าวของเครื่องใช้ เครื่องอัฐบริขารทั้งหมดขึ้นรถไปพร้อมกับเจ้าอาวาสวัดอนัญโญภูค้อทันที โดยไม่ยอมให้พ่อที่อาสาขับรถไปส่งเดินทางไปด้วย


พระมหาสายัณฆ์ อภิปุณโญ เจ้าอาวาสวัดอนัญโญภูค้อ วัดต้นสังกัดของพระอาจารย์สุนิตร กล่าวว่า การกระทำครั้งนี้ของพระอาจารย์สุนิตรถือว่าฝ่าฝืนคำสั่งคณะสงฆ์ที่ไม่ยอมกลับไปวัดต้นสังกัด และดึงดันออกจากพื้นที่ไป และหากมีการประพฤติเช่นนี้อีกจะต้องลงโทษขั้นเด็ดขาดด้วยการจับสึก จากนั้นได้ขึ้นรถเดินทางออกไปจากสำนักสงฆ์


สำหรับสำนักสงฆ์แห่งนี้ ในวันนี้ (31 ต.ค.) ผู้ใหญ่บ้านและฝ่ายปกครองจะมีการนำเสาปูนมาขุดฝังเพื่อปิดทางเข้าออก ไม่ให้ใครเข้ามาในพื้นที่ได้ สำหรับโลงแก้วดังกล่าวนั้นจะติดต่อไปยังผู้หญิงที่เป็นคนสร้างว่าจะรับกลับไปหรือไม่ หากไม่รับกลับไปอาจจะมีการทุบทำลาย


รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/61k-aO0oy4w

คุณอาจสนใจ

Related News