เปิดเครือข่ายขายถุงมือยางปลอมข้ามชาติ โยงเอี่ยวคดีอุ้มเรียกค่าไถ่

สังคม

เปิดเครือข่ายขายถุงมือยางปลอมข้ามชาติ โยงเอี่ยวคดีอุ้มเรียกค่าไถ่

โดย pattraporn_a

27 ต.ค. 2564

83 views

คดีที่อัยการสั่งฟ้อง บริษัท แพ็ดดี้เดอะรูม เป็นคดีที่มีการตรวจค้นโกดังพบมีถุงมือยางทางการแพทย์ไม่ได้มาตรฐาน เมื่อปลายเดือนธันวาคมปีที่แล้ว แต่จากคดีที่ นายลูอิส วิลเลียม ซิสกิน ฟ้องคดีฉ้อโกง บริษัท แพ็ดดี้ เดอะรูม ก็พบว่า แม้จะมีการจับกุมทางบริษัทแพ็ดดี้เดอรูมไปแล้ว แต่ยังสามารถส่งสินค้าไปให้ นายลูอิส ที่สหรัฐอเมิรกา ในเดือนมกราคมปี 2564 และอีกหลายครั้ง



และยังพบว่า บริษัทแพ็ดดี้ เดอรูม ยังเกี่ยวข้องกับ บริษัท คอลเล็คชั่น เอ็นเตอร์ไพรส์ สัญชาติไต้หวัน ที่เกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกงด้วย และยังมาเกี่ยวข้องกับคดีที่ นายวินเซ็นต์ หวิน กล่าวหา นายลูอิส และพวก ฐานเรียกค่าไถ่ และพยายามฆ่าด้วย ในขณะที่นายลูอิส ได้ต่อสู้คดีนี้ โดยชี้ให้เห็นว่า เครือข่ายที่ฉ้อโกงขายถุงมือยางปลอม มีการกระทำเป็นขบวนการข้ามชาติ และขอความเป็นธรรมจากกรณีต้องกลายเป็นผู้ต้องหาในคดีเรียกค่าไถ่ด้วย



โดยมีคลิปที่ นายวินเซ็นต์ เหวิน จากบริษัท คอลเล็คชั่น เอ็นเตอร์ไพรส์ สัญชาติ ไต้หวัน โชว์ให้เห็นว่า มีโกดังสินค้าถุงมือยางทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐานจากบริษัทผู้ผลิตชั้นนำในประเทศไทย ทำให้นายลูอิส วิลเลียม ซิสกิน หลงเชื่อว่า เป็นถุงมือทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐษน จึงสั่งซื้อสิ้นค้าจำนวน 4 แสนกล่อง มูลค่า 2.7 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเกือบ 94 ล้านบาท


แต่เมื่อได้รับสินค้าที่สหรัฐอเมริกา กลับพบว่า เป็นถุงมือยางทางการแพทย์ที่ใช้งานแล้ว ไม่ใช่ประเภทไนไตร์อย่างที่ทำสัญญาซื้อขาย กับ บริษัท คอลเล็คชั่นเอนเตอร์ไพรส์ สัญญาติไต้หวัน เป็นตัวแทนให้กับ บริษัท แพ็ดดี้ เดอะรูมที่ต้ังอยู่ในประเทศไทย และอ้างว่าเป็นตัวแทนจำหน่ายจากบริษัทชั้นนำในประเทศไทย


ทำให้ นายลูอิส ต้องยื่นฟ้องต่อ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ บก.ปอศ. กับทั้ง 2 บริษัท ฐานฉ้อโกง โดยมีผู้เกี่ยวข้อง 5 คน ประกอบด้วย นางเอมิลี่ ซู , นายเดิวิด ลินท์ , นายเท้ด ทัน , นายวินเซ็นต์ เหวิน จากบริษัทคอลเล็คชั่น เอ็นเตอร์ไพรส์ และ นายลุกเฟย หยาง หยาง จากบริษัท แพ็ดดี้ เดอะรูม ซึ่งล่าสุดคดีนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานของ ปอศ.และอัยการ ก่อนพิจารณาสั่งฟ้อง เนื่องจากเป็นคดีนอกราชอาณาจักร และเนื่องจากคดีนี้เกี่ยวข้องกับไทย ไต้หวัน และสหรัฐฯ ทำให้เข้าข่ายอาชญากรข้ามชาติ


จากความเชื่อมโยงระหว่างบริษัท คอลเล็คชั่น เอ็นเตอร์ไพรส์ และบริษัท แพ้ดดี้เดอะรุม รวมถึงหลักฐานการโอนเงินของนายลูอิส ทำให้เขาเชื่อว่า เครือข่ายนี้เป็นขบวนการข้ามชาติในการร่วมมือกันขายถุงมือยางทางการแพทย์ปลอม และยังเกี่ยวข้องกับ คดีที่นายลูอิส ถูกกล่าวหา และถูกจับกุมเป้นหนึ่งในผุ้ต้องหา คดีอั้งยี้ซ่องโจร เรียกค่าไถ่ และพยายามฆ่า นายวินเซ็นต์ เหวิน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เกี่ยวข้องกับคดีขายถุงมือยางปลอม


โดยคดีนี้มีขี้นเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2564 กองบังคับการปราบปราม ได้จับกุม นายเจเรมี่ แมนเชสเตอร์ นายลูอิส ซิสกิน สัญชาติอเมริกัน และนายเอกบดินทร์ ประสิทธินฤทธิ์ ผู้ต้องหาก่อเหตุอุ้ม นายเหวิน ยูซง ผู้เสียหายชาวไต้หวัน โดยพบว่ามีผู้กระทำผิด 16 คน เป็นชาวต่างชาติ 6 คน คนไทย 10 คน และตำรวจไทย เกี่ยวข้อง 1 คน ถูกตั้งข้อหา อั้งยี้ซ่องโจร เรียกค่าไถ่ และพยายามฆ่า


โดยข้อหาดังกล่าวเกิดจากเหตุการณ์ที่ระบุว่า มาจากที่นายลูอิส ซึ่งได้ซื้อขายถุงมือยางกับบริษัทคอลเล็คชั่น เอ็นเตอร์ไพรส์ แต่นายลูอิส ต้องการเปลี่ยนสินค้า และนัดหมายให้นายวินเซ็นต์ มาพบที่ร้านอาหารย่านสุขุมวิท แต่กลับล็อคตัวใส่กุญเจมือในช่วงกางวัน แล้วพาไปห้องพักเรียกค่าไถ่ 3 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือเกือบ 100 ล้านบาท โดยนายวินเซ็นต์ พยายามเจรจาต่อรองที่จะชำระหนี้ให้นายลุอิส เพราะไม่มีอำนาจเบิกจ่ายเงิน จนผู้ต้องหายอมปล่อยตัว


จากเหตุการณ์ที่ตำรวจกองปราบเข้าจับกุมตัวนายลูอิส และผู้ต้องหาในคดีนี้ ซึ่งมี นายเจรามี่ แมนเชสเตอร์และนายเอกบดินทร์ ประสิทธินฤิทธ์ รวมถึง พ.ต.ท.กฤษณพร ทัพทวี ก่อนจะยื่นฝากขัง และทนายความของนายลูอิส เปิดเผยว่า เมื่อครบกำหนดฝากขัง และทางพนักงานสอบสวนและอัยการยังไม่สั่งฟ้อง จึงขอศาลออกนอกประเทศ กลับไปสหรัฐอเมริกาในช่วงปลายเดือนสิงหคา โดยไม่ได้หลบนี


ซึ่งคดีนี้ นายลูอิส ได้ต่อสู้คดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ สน.ทองหล่อ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ตามหมายจับว่าไม่เคยสนับสนุนหรือร่วมกับบุคคลที่ถูกออกหมายจับ ซึ่มีหลักฐานที่ยืนยันว่าเขาไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตุถึงข้อพิรุธในการออกหมายจับโดยเร่งรีบ และเหตุที่มาไทย เป็นไปตามคำท้าของนายวินเซ็นต์ เหวิน ที่ให้มาดูสินค้า ซึ่งเวลานั้นเขายอมรับว่าต้องการสินค้าไปให้ลูกค้าในสหรัฐฯที่กำลังมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างหนัก


คดีฉ้อโกงขายถุงมือยางปลอม จึงกลายเป็นคดีข้ามชาติ ที่ทางการสหรัฐ ทั้ง เอฟบีไอ สำนักงานอาหารและยา และสำนักงานศุลกรกรและป้องกันชายแดน กำลังตรวจสอบ เพราะนายลูอิส ได้แจ้งความดำเนินคดีแล้วด้วย รวมถึงเดินหน้าให้มีการตรวจสอบพฤติกรรมผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงหลอกขายถุงมือยางทางการแพทย์ปลอม ที่อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องมือทางการแพทย์


รวมถึงขอให้ทางการไทย ติดตามตัว นางสาวเอมีลี่ ซู นายลุกเฟย หยางหยาง ที่มีรายงานข่าวว่าหลบหนีออกนอกประเทศไทยไปแล้ว และนายวินเซ้นต์ เหวิน ซึ่งเป็นทั้งผู้ต้องหา และผู้เสียหาย แต่คดีที่ใช้ประเทศไทยเป็นฐานตั้งตั้งโรงงานแล้วหลอกขายสินค้าปลอม สร้างความเสียหายให้ประเทศไทย 

คุณอาจสนใจ

Related News