ตำรวจแจ้งข้อหาแท็กซี่ขับรถชนสาวท้อง 6 เดือนแล้ว ด้านครอบครัวยังคาใจ ทำไมไม่นำตัวส่งโรงพยาบาลตั้งแต่แรก

ความคืบหน้ากรณีสาววัย 21 ปี ตั้งครรภ์ 6 เดือน ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์สามีไปกินข้าวนอกบ้านช่วงหัวค่ำ ของวันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่กลับประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักล้ม บริเวณสะพานข้ามคลองก่อนถึงหน้าตลาดบางแค เพราะสุนัขสีขาววิ่งตัดหน้า ทำให้หญิงสาวท้อง 6 เดือนล้มอยู่ริมถนน

และช่วงที่สามีกำลังจะยื่นมือไปจับมือแฟนสาวเพื่อพยุงตัวขึ้นมา กลับมีรถแท็กซี่ขับพุ่งมาทับและลากร่างของเธอไปไกลกว่า 100 เมตร โดยไม่มีทีท่าจะว่าจะหยุดรถ สุดท้ายได้พลเมืองดีขี่รถจักรยานยนต์ไปปาดหน้า คนขับแท็กซี่ถึงหยุด แต่เธอก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมาบนรถพยาบาล ซึ่งสามีของเธอยังคาใจเรื่องการช่วยเหลือ เพราะวันนั้นเจ้าหน้าที่บอกว่า ถ้าไม่มีบัตรประชาชนก็ไม่สามารถนำส่งโรงพยาบาลได้

เมื่อวานนี้ นาย ชนายุทธ เรืองศรี หรือ ปาย สามีของเธอ ไปรับศพภรรยาและลูกที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ทั้งน้ำตา เพราะเขาเพิ่งรู้ว่า ลูกที่เสียไปเป็นลูกสาว ตามที่เขาและภรรยาตั้งความหวังไว้ และยังตั้งชื่อไว้ล่วงหน้าว่า ‘อลิส’ ด้วย

และจนถึงวันนี้เขายังคาใจถึงการช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ที่ปล่อยให้ภรรยาเขานอนรอความช่วยเหลืออยู่บนรถพยาบาลเพียงเพราะไม่มีบัตรประชาชน จนต้องโทรศัพท์ตามน้องให้ขี่รถจักรยานยนต์มาเอากุญแจห้องเพื่อไปไขเอาเอกสาร และบัตรประชาชนที่ห้องพักแล้วกลับมาให้เจ้าหน้าที่ ซึ่งใช้เวลากว่า 40 นาที สุดท้ายเขาต้องเสียทั้งภรรยาและลูกไป โดยตั้งคำถามว่าบัตรประชาชนสำคัญกว่าชีวิต?

ปาย ยังบอกด้วยว่า ภาพที่เขาเห็นคือ แฟนเอามือทั้ง 2 พยายามป้องกันท้องเอาไว้ ไม่ให้ลูกเป็นอะไร ทั้งที่แขนหักผิดรูปไปหมด เขาพยามตะโกนขอให้คนมาช่วยแฟน ที่นอนบาดเจ็บอยู่บนถนน และเรียกแฟนให้มีสติ แต่แฟนตอบมาแค่ “อือ”

ด้านนาง นงนภัส ตั้งนิมิตโชค แม่ของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ทราบข่าวว่าลูกสาวเสีย ช่วงประมาณตีห้า รู้สึกตกใจ ทำใจไม่ได้ เพราะลูกสาวกำลังตั้งครรภ์ 6 เดือน ซึ่งเป็นหลานคนแรก ยืนยันจะเอาเรื่องคนขับรถให้ถึงที่สุด รวมถึงไม่อโหสิกรรม และไม่จำเป็นต้องมาขอขมาศพลูกสาวและหลาน

ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับ นาย จีระพงษ์ โทวะดี พลเมืองดีที่ขี่รถจักรยบานยนต์ไปขวางแท็กซี่ เล่าว่า คืนเกิดเหตุขี่รถจักรยานยนต์มา เห็นจังหวะที่รถแท็กซี่ชนและลากน้องผู้หญิงไปไกลประมาณ 100 เมตร และแท็กซี่ไม่ได้เบรคเลย มีเพียงการชะลอและพยายามขับต่อไป พอแท็กซี่จอดและลงมาจากรถก็ถามว่า ทำไมจึงไม่ยอมหยุดรถ หรือจอดช่วยเหลือ แต่คนขับรถกลับตอบเพียงแค่ว่า “ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมไม่เห็น”

พลตำรวจตรี พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 เปิดเผยว่า กรณีหญิงตั้งครรภ์ 6 เดือนถูกแท็กซี่ชนเสียชีวิตนั้น เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สน.หลักสองได้แจ้งข้อหากับคนขับรถแท็กซี่สีส้ม ในข้อหาขับรถประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ก่อนปล่อยตัวกลับไป เนื่องจากคนขับรถไม่ได้หลบหนี

เบื้องต้นได้สอบปากคำในคนขับรถแท็กซี่ไว้แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด และพยานแวดล้อม โดยหลังจากนี้ เมื่อเสร็จสิ้นงานศพ พนักงานสอบสวนจะเชิญสามีผู้เสียชีวิตมาให้ปากคำเพิ่มเติมพร้อมยืนยันว่าตำรวจทำทุกอย่างตามขั้นตอน และพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย