สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระวโรกาสให้ พระสงฆ์และเครือข่ายพุทธศาสนิกชนเฝ้า

พระราชสำนัก

สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระวโรกาสให้ พระสงฆ์และเครือข่ายพุทธศาสนิกชนเฝ้า

โดย kodchaporn_j

25 ต.ค. 2564

11 views

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระวโรกาสให้ พระภิกษุสงฆ์ในพื้นที่จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา พร้อมเครือข่ายพุทธศาสนิกชนเฝ้า


วันนี้ เวลา 14.57 น. สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จลงพระวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ประทานพระวโรกาสให้ นายบดินทร์ รัศมีเทศ รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหาร จังหวัดชายแดนภาคใต้ นำพระภิกษุสงฆ์ ในพื้นที่จังหวัดยะลา จังหวัดปัตตานี จังหวัดนราธิวาส และจาก 4 อำเภอ ในจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยเครือข่ายพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ เฝ้ากราบทูลรายงานการดำเนินงาน เพื่อสนับสนุนพระพุทธศาสนา และวิถีความเป็นอยู่ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้


โอกาสนี้ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานกำลังใจ และพระสัมโมทนียกถา ความตอนหนึ่งว่า "ความเมตตานั้นมีคุณานุคุณกว้างขวางยิ่งนัก สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงอานิสงส์ไว้ถึง 11 ประการ อานิสงส์ข้อสำคัญสำหรับการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม


ได้แก่ ผู้เจริญเมตตาย่อมเป็นที่รักในหมู่มนุษย์ ความรักใคร่กลมเกลียว สามัคคีปรองดองกันในหมู่มนุษย์ อันหมายถึงสันติสุข ที่ทุกคนปรารถนา ย่อมไม่อาจบังเกิดขึ้นได้เลย หากแต่ละบุคคลยังปราศจากเมตตา อย่างจริงใจต่อกัน เพราะฉะนั้น ขอให้ท่านจงตั้งต้นการประพฤติปฏิบัติทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต ด้วยการเจริญเมตตา พรหมวิหารอยู่เสมอ ทุกลมหายใจ เริ่มจากคนใกล้ ขยายวงออกไปสู่คนไกล และเริ่มจากคนที่เรารักใคร่ชอบพอ ขยายวงออกไปสู่คนที่มีจิตประทุษร้าย หรือตั้งตนเป็นไพรี


หากท่านทำได้ดังนี้ ความเมตตาอย่างไม่มีประมาณ จะค่อยๆ ทวีปริมาณขึ้น เป็นกระแสแห่งความร่มเย็น จนกระทั่งในสายตาของท่าน มองไม่เห็นใครที่น่าเกลียดชังอยู่บนโลกนี้ คงมีแต่เพื่อนร่วมโลกที่ควรได้รับกระแสความร่มเย็นจากจิตใจเรา ซึ่งจะทำให้คนที่รักอยู่แล้ว ยิ่งรักใคร่สนิทใจไม่เสื่อมคลาย และทำให้คนที่เคยชัง อาจกลับกลายเป็นรู้สึกเฉยๆ แล้วอาจเปลี่ยนใจมารู้รักสามัคคีกันได้ในที่สุด สภาวะเช่นนี้แล จะช่วยค้ำจุนสังคมไทยให้คงอยู่ร่วมกันได้ในทุกหมู่ชน และยังเป็นการค้ำจุนโลกนี้ไปพร้อมๆ กันด้วย


ในนามคณะสงฆ์ ขอถวายกำลังใจ และขอเป็นกำลังใจ ให้พุทธบริษัทในจังหวัดชายแดนภาคใต้ บริบูรณ์ด้วยสรรพกำลัง ในอันที่จะเชิดชูสันติสุขของชาติไทย อีกทั้งรักษาพระบวรพุทธศาสนา ให้วัฒนาสถาพรไม่มีวันเสื่อมสูญ"