นักเคลื่อนไหวการเมืองร้อง เคยถูก 'อดีต ผกก.โจ้' อุ้มซ้อมห้ามจัดม็อบปี 63

สังคม

นักเคลื่อนไหวการเมืองร้อง เคยถูก 'อดีต ผกก.โจ้' อุ้มซ้อมห้ามจัดม็อบปี 63

โดย weerawit_c

25 ต.ค. 2564

214 views

นายเวหา แสนชนชนะศึก อายุ 37 ปี นักกิจกรรมและเคลื่อนไหวทางการเมือง ชาวจังหวัดพิษณุโลก เข้าพบตำรวจกองปราบปราม เมื่อวานนี้ (24 ต.ค.) เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ โดยระบุว่า อดีตผู้กำกับโจ้ เคยอุ้มตนเองและนำตัวไปกักขังทำร้ายร่างกาย เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2563 ระหว่างที่นายเวหากำลังจะจัดกิจกรรมการชุมนุม พิษณุโลกคนกล้า ไม่ก้มหน้าให้เผด็จการ


นายเวหา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ปี 2563 ตนเตรียมจัดกิจกรรมการชุมนุม ที่บริเวณริมแม่น้ำน่านในตัวเมืองพิษณุโลก แต่ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์มาฉุดกระชากนำตัวขึ้นรถ ครอบศีรษะด้วยถุงผ้า พาไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง ทำให้การชุมนุมในวันนั้น ไม่สามารถจัดขึ้นได้ตามที่ตั้งใจ มีเพียงนิสิตจากมหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมผู้ชุมนุมอีกบางส่วนได้จัดกิจกรรมต่อ ระหว่างที่ถูกควบคุมตัว ก็ถูกทำร้ายร่างกาย เช่น ชกต่อยที่ใบหน้า เตะที่หน้าอก และกระทืบตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ก่อนที่กลุ่มชายฉกรรจ์จะนำตัวตนมาทิ้งยังจุดเดิมบริเวณริมแม่น้ำน่าน


หลังกลับมาได้ ก็โพสต์เรื่องราวในโซเชียลว่า ถูกคุกคาม โดยไม่ทราบว่าบุคคลที่รุมทำร้ายเป็นใคร แต่จำหน้าได้ ต่อมาวันที่ 13 สิงหาคม 63 ตำรวจมาหาที่บ้านพัก จับกุมไปที่ห้องสืบสวน นอกอาคาร สภ.เมืองพิษณุโลก มีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ว่าตำรวจได้จับกุมตนในฐานความผิดปล่อยเฟกนิวส์ เรื่องการอุ้มแกนนำจัดกิจกรรม ถูกตั้งข้อกล่าวหาตามความผิดอาญามาตรา 116 และความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ถูกนำตัวฝากขังที่เรือนจำจังหวัดพิษณุโลก ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2563 และถูกปล่อยตัวออกมาในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2563 เนื่องจากอัยการจังหวัดพิษณุโลก มีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดี


กระทั่งเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2564 ขณะที่ร่วมกิจกรรมการชุมนุม มีผู้มาแจ้งว่า คนที่อุ้มตนในวันนั้น คือ อดีตผู้กำกับโจ้ นายเวหาจึงเช็กข่าวสารผ่านสื่อ พบว่า อดีตผู้กำกับโจ้ มีใบหน้าคล้ายกับที่ตำรวจที่เคยทำร้ายตน เมื่อตรวจสอบประวัติพบช่วงเดือนสิงหาคมปี 2563 พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล เคยอยู่ในชุดสืบสวนของ ภ.จว.พิษณุโลก มาก่อน จึงมาที่กองปราบปราม แจ้งความร้องทุกข์ เพื่อดำเนินคดีกับอดีตผู้กำกับโจ้ ฐานความผิดทำร้ายร่างกาย กักขังหน่วงเหนี่ยว และทำให้บุคคลอื่นได้รับโทษ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำ ก่อนนำเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/aLLRzyXiIQo

คุณอาจสนใจ

Related News