สุดสลด เด็กหญิง 6 ขวบ ถูกไฟคลอกเสียชีวิตคาเพิงพัก ร้องเรียกแม่ให้ช่วย แต่ไม่ทัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ เพราะเพิงพักไม่มีไฟฟ้าใช้ และเกิดไฟไหม้หลังเดียว

วันที่ 22 ต.ค.64 เกิดเหตุสลด ในเขตคลองสามวา เมื่อช่วงเวลา 16.00 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้ลักษณะเป็นเพิงพัก ปลูกสร้างด้วยไม้ 1 ชั้น ในซอยประชาร่วมใจ 57 ถนนประชาร่วมใจ แขวงทรายกองดินใต้ เขตคลองสามวา

ที่เกิดเหตุเป็นลักษณะเพิงพักชั้นเดียว สร้างไว้ติดกันจำนวน 3 หลัง ไฟไหม้หลังที่ 2 อยู่ตรงกลาง สภาพถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด หลังเพลิงสงบ พบร่างเด็กหญิง อายุ 6 ขวบ ถูกไฟคลอกเสียชีวิต

ทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบพบสภาพที่เกิดเหตุเป็นเพิงพัก ไม่มีไฟฟ้าใช้ ปลูกสร้างด้วยไม้และวัสดุจากการเก็บของเก่า รอบข้างเป็นทุ่งนาและคลองน้ำ

แม่ของเด็กหญิงที่เสียชีวิต เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุประมาณ ตี 3 ตอนนั้นลูกสาวนอนหลับอยู่ในบ้าน โดยที่ตนเองและเพื่อน กำลังคัดแยกของเก่าเพื่อนำไปขาย ที่บ้านเพื่อนหลังข้าง ๆ กัน โดยตอนนั้นไม่มีใครได้ยินเสียงหรือรู้ว่าเกิดเพลิงไหม้ จากนั้น ได้ยินเสียงลูกเรียก "ม๊ะ" จึงถามกับเพื่อนว่าใช่เสียงลูกหรือไม่

จากนั้นเสียงเรียกก็ดังถี่ขึ้น จึงวิ่งออกมาดู ปรากฏว่าสภาพของบ้านมีเปลวไฟลุกไหม้โชน ตอนนั้นสติแตก วิ่งหาถังน้ำมาดับไฟ เพื่อน ๆ ก็ช่วยกัน และตนพยายามจะวิ่งเข้าไปในบ้านด้านข้าง แต่ก็ถูกท่อนไม้ร่วงลงมาใส่ พยายามจะปืนเข้าไปในบ้านเพื่อช่วยลูก อีกเพียงนิดเดียว แต่ก็ไม่ได้ ไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็วพร้อมเสียงดังคล้ายระเบิด จากนั้นก็สิ้นเสียงร้องของลูก

ยอมรับว่าเสียใจมาก เพราะช่วยชีวิตลูกไม่ได้ ทั้งที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งตอนนั้นเพื่อน ๆ ที่เห็นก็พยายามโทรศัพท์แจ้งตำรวจ และตำรวจคนที่รู้จัก แต่ไม่มีใครรับสาย จึงพากันช่วยกันตักน้ำจากคลอง ดับไฟ จนสงบลง และก็พบว่าลูกสาวเสียชีวิต ถูกไฟไหม้ทั้งตัว

ทั้งนี้ แม่อยากขอให้ตำรวจหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ เพราะที่บ้านไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีการจุดตะเกียง จุดเทียน มีแต่การใช้แผงโซล่าเซลล์ จึงไม่รู้ว่าสาเหตุที่เกิดเพลิงไหม้มาจากอะไร แม่พยายามเข้าช่วยแล้ว แต่ก็ไม่สามารถช่วยลูกได้ และคิดว่า เขาคงมีอายุไขเพียงเท่านี้

ทีมข่าวสอบถาม นางส้ม ที่อยู่ในเหตุการณ์ บอกว่า ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ว่าแสงเพลิงนั้นเกิดจากจุดใด เพราะทุกคนกำลังคัดแยกขยะ และตอนเกิดไฟไหม้ก็ไม่ได้กลิ่นอะไรเพราะใส่หน้ากากอนามัย ได้ยินคือตอนน้องร้องเรียกแม่เท่านั้น ตนก็ช่วยกันตักน้ำดับไฟเพราะกลัวไฟลุกลามมาที่บ้านตนเอง ในขณะที่เกิดเหตุไฟไหม้อย่างแรง แต่ก็ดับไปโดยไม่ได้เรียกรถดับเพลิง ทุกคนช่วยกันตักน้ำจากคลองดับไฟกันเอง ซึ่งการสูบบุหรี่ในคืนเกิดเหตุ ก็มีเพียงแม่เด็กที่สูบ และพ่อของตนเองที่สูบยาเส้น แต่ขณะที่เกิดเพลิงไหม้ ไม่มีใครสูบบุหรี่จุดนั้น

นอกจากนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดไฟไหม้เพิงพักทั้งหลังแต่ บ้านข้าง ๆ 2 หลัง ไม่โดนไฟไหม้ ทั้งที่ปลูกใกล้กัน อีกทั้งจุดเกิดเหตุไม่มีไฟฟ้าใช้ แล้วเกิดประกายไฟได้อย่างไร ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่า บุคคลที่อยู่ใกล้เคียงมีใครสูบบุหรี่หรือทิ้งก้นบุหรี่เข้าไปใกล้จุดเกิดเหตุหรือไม่ หรือมีประกายไฟจากจุดใด รวมทั้งการที่เกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง เป็นเพราะในบ้านมีการเก็บถังสีเก่า ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี

โดยชุดสืบสวน สน.มีนบุรี และตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้เข้าเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ รวมทั้งรอผลการชันสูตรศพของผู้เสียชีวิต

อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ :https://youtu.be/JQztFINW9pA