นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงษ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์สื่อ หลังการประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค วานนี้ (20 ต.ค.) มีการประชุมหรือพิจารณาแนวทางการฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มที่สิงในกลุ่มเด็กผู้ชาย โดยในการประชุมได้ให้กุมารแพทย์โรคติดต่อ โรคหัวใจ เข้าให้ข้อมูล ร่วมด้วย

สำหรับข้อมูลการฉีดวัคซีน ชนิด MRNA มีการฉีดแล้วหลายเข็ม โดยประเทศที่ฉีด 2 เข็มส่วนใหญ่ คือ อเมริกา ออสเตรเลีย แคนาดา ญี่ปุ่น และบราซิล ส่วนประเทศที่ฉีด 1 เข็ม ได้แก่ เม็กซิโก อังกฤษ นอร์เวย์ ฟิลิปปินส์ และไต้หวัน

ทั้งนี้จากการสำรวจพบว่า การเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ มักเกิดในเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กผู้หญิง 6 คนใน 1 แสนคน และพบมากในเข็มที่ 2 และมักเกิดเด็กผู้ชายที่มีร่างกายแข็งแรง โดยเด็กที่ป่วยส่วนใหญ่มีอาการเจ็บหน้าอก เหนื่อยหอบ

ส่วนกรณีที่เด็กเสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนไฟเซอร์และเกิดอาการข้างเคียง คือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังการรับวัคซีน ทั่วโลกมีระบุแน่ชัดเพียง 1 ราย จากการฉีดไปแล้ว กว่า 100 ล้านโดส

และยังพบว่า ในระยะหลังมีกลุ่มเด็กที่เกิดภาวะ MIS-C หรือ ภาวะที่เกิดการอักเสบในหลายระบบในเด็กที่เคยติดเชื้อ โควิด-19 เพิ่มจำนวนขึ้น

จากข้อมูลที่มีทั้งหมดทางคณะอนุกรรมการจึงพิจารณามีมติ ว่าการฉีดวัคซีนมีประโยชน์มากกว่าการเกิดผลข้างเคียงโดยแนะนำให้เด็กอายุ 12 -17 ปี ให้สามารถใช้วัคซีนไฟเซอร์สองเข็มได้ ซึ่งตรงตามข้อบ่งชี้และการอนุญาตการใช้วัคซีนที่ทางคณะกรรมการอาหารและยาได้อนุญาตไปก่อนหน้านี้ โดยทั้งนี้ให้การเข้ารับวัคซีนเข็มที่สองเป็นไปตามความสมัครใจของเด็กและผู้ปกครอง 

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/APvXUiIL614